ตอนนี้การจัดฟันดูจะเป็นเรื่องฮิตของเด็กๆ และวัยรุ่นไปแล้ว บางคนฟันเกนิดเดียว อยากสวย... ก็เดินเข้าไปให้หมอจัดฟัน
ถามว่าจำเป็นไหม...คงไม่ แต่ถ้าอยากสวยก็นับเป็นอีกเรื่องหนึ่ง และคงไม่ใช่สาเหตุสำหรับทันตแพทย์ที่จะแนะนำคุณพ่อคุณแม่ให้พาลูกไปจัดฟัน เพราะการจัดหรือดัดฟันนั้นมีเหตุผลหลักอยู่ที่เพื่อแก้ไขการสบฟันที่ผิดปกติ กระทั่งทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพของช่องปาก และยังมีผลกระทบต่อพัฒนาการของฟันแท้และโครงสร้างใบหน้า
พันตรีหญิงชนนันท์ ไตรทรัพย์ ทันตแพทย์ของโรงพยาบาลพระมงกุฎ ได้ยกตัวอย่างการ สบฟัน ที่ผิดปกติว่า
"ในกรณีที่เด็กฟันยื่น ถ้าเขาได้รับอุบัติเหตุหกล้ม โอกาสที่จะทำให้ฟันหักมีสูงขึ้น เราจึงแนะนำให้แก้ไขด้วยการจัดฟันเพื่อลดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น หรือเพื่อให้เด็กสามารถออกเสียงได้ตามปกติ เพราะการใช้ฟันเป็นอุปกรณ์อย่างหนึ่งที่ทำให้เกิดการออกเสียงอย่างถูกต้อง
"อีกกรณีหนึ่งที่ควรทำอย่างยิ่งคือ ฟันหน้าล่างคร่อมฟันหน้าบน ถ้าปล่อยไปเรื่อยๆ คางจะยื่นยาว และเกิดผลกระทบต่อโครงสร้างใบหน้าได้"
ในเด็กๆ ที่มีฟันซ้อน ฟันเกมากๆ ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ควรไปพบทันตแพทย์จัดฟัน เพราะมันอาจเป็นอุปสรรคต่อการทำความสะอาดอย่างทั่วถึง จนทำให้เกิดฟันผุในที่สุด
ถ้าทันตแพทย์วินิจฉัยแล้วเห็นว่าลูกของเราควรจัดฟัน เพื่อให้เกิดการเรียงตัวที่เป็นระเบียบของฟัน และง่ายต่อการดูแลทำความสะอาด คุณพ่อคุณแม่ต้องเตรียมทุนทรัพย์เอาไว้แต่เนิ่นๆ ค่ะ เพราะอัตราการจัดฟัน ขนาดในโรงพยาบาลของรัฐก็เฉลี่ยอยู่ที่ 30,000-40,000 บาท และควรบอกลูกให้เตรียมตัวเตรียมใจแต่เนิ่นๆ ว่าเขาต้องมีลวดดัดฟันเป็นเพื่อนในปากอยู่นาน 1-2 ปีเป็นอย่างน้อย และต้องไปพบทันตแพทย์อย่างต่อเนื่องทุก 4-6 อาทิตย์ การรับประทานอาหาร และการทำความสะอาดฟันก็จะเปลี่ยนแปลงไป ต้องมีการระคายเคืองเกิดขึ้น และบางรายอาจมีอาการเจ็บร่วมด้วย
ตัดสินใจได้แล้ว...จูงลูกเดินเข้าร้านหมอฟันได้ทันทีค่ะ
สำหรับในกรณีไม่มีความจำเป็นแต่อยากให้ลูกมีฟันได้รูป เรียงเป็นระเบียบสวยงาม คุณพ่อ คุณแม่ ก็ต้องถามตัวเองว่าพร้อมจะเสียเงินหรือไม่ และอย่าลืมถามลูกว่าพร้อมจะเจอความเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นในชีวิตช่วง 1-2 ปีนี้หรือไม่
ฟันแบบไหน ต้องไปจัดฟัน
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!