เพศที่สาม หรือ รักร่วมเพศ หมายถึง บุคคลที่มีความต้องการทางเพศกับ
บุคคลที่เป็นเพศเดียวกับตน ต่อให้กำลังมีกิจกรรมทางเพศกับบุคคลต่างเพศอยู่ก็
ตามที แต่อดมีจิตคิดประหวัดถึงบุคคลเพศเดียวกันไม่ได้ โดยกลุ่มนี้ไม่ได้มีความ
ประสงค์ที่จะตัด ต่อ เฉาะ เฉือน ให้เป็นเพศตรงข้าม เขาจะพอใจในเพศที่ตนเอง
เป็นอยู่ เพียงแต่ต้องการมีเพศสัมพันธ์กับเพศเดียวกันเท่านั้นเอง ทั้งนี้กลุ่มรักร่วม
เพศเกิดขึ้นได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง ความหมายนี้จึงรวมเกย์และเลสเบี้ยนด้วย
สำหรับพวกที่มีกิจกรรมทางเพศกับเพศเดียวกันแบบชั่วคราว เช่น ตอนวัย
รุ่นคุณอาจเคยร่วมวงสำเร็จความใคร่กับเพื่อนๆ โดยอาจผลัดกันจับ (และคุณไม่
ได้ติดอกติดใจอาลัยอาวรณ์กับพฤติกรรมดังกล่าว) จัดว่าไม่เป็นกลุ่มเพศที่สาม
Hermarphrodite : กลุ่มนี้หมายถึง กะเทยแท้ๆ ประเภทที่มีระบบสืบพันธุ์ทั้ง
สองเพศในคนเดียวกัน เช่น อาจมีอวัยวะเพศภายนอกเป็นลักษณะเพศหญิง แต่
แอบมีอัณฑะอยู่ในตัวด้วย เป็นของแถมที่ไม่ต้องการ
Transexualism : หรือ ที่เรารู้จักในนามกะเทย มีความรู้สึกไม่พอใจในเพศที่
ตนเองเป็นอยู่ ต้องการเปลี่ยนแปลงเป็นเพศตรงข้าม ยอมรับตนเองในฐานะที่เป็น
เพศตรงข้าม
Transvestism : ประเภทนี้เราพบในภาพยนตร์หลายเรื่อง เป็นกลุ่มที่มีความ
ต้องการทางเพศ หรือมีความสุขเมื่อได้สวมใส่เสื้อผ้าของเพศตรงข้าม แต่ยังพอใจ
ในการมีเพศสัมพันธ์กับเพศตรงข้าม ไม่มีความคิดที่จะมีเพศสัมพันธ์กับเพศเดียวกัน
เลย เช่น ผู้ชายบางคนที่ชอบแต่งตัวชุดสตรีแล้วช่วยกระตุ้นให้มีความรู้สึกทาง
เพศที่คึกคักขึ้น โดยยังอยากมีกิจกรรมทางเพศกับผู้หญิงเท่านั้น
สำหรับปัจจัยที่ทำให้เป็น เกย์ กะเทย ทอม ดี้ นั้น มีหลากหลายทฤษฎีและแนว
ความคิด ทั้งเรื่องของระบบสมอง ยีน พันธุกรรม การเลี้ยงดู การหล่อหลอมทาง
สังคม การเรียนรู้จากสังคม แต่ยังไม่มีทฤษฎีใดที่ยืนยันได้เต็มที่ คาดว่าเป็นจาก
หลากหลายองค์ประกอบ (รวมทั้งบางคนบอกว่าเป็นสันดาน หรือเป็นกรรมแต่
ปางก่อนด้วย)
แต่ตามแนวความคิดทางจิตเวชศาสตร์ปัจจุบันถือว่า หากมีพฤติกรรม
เบี่ยงเบนทางเพศ สนใจเพศเดียวกัน โดยที่อายุผู้ที่มีพฤติกรรมนั้นยังไม่ถึง 18 ปี
จัดเป็นภาวะผิดปกติทางจิตที่ควรได้รับการแก้ไข (Gender Identity Disorder)
แต่ถ้าอายุเกิน 18 ปีไม่จัดว่าเป็นภาวะผิดปกติทางเพศ แต่จัดเป็นกลุ่มบุคคลปกติ
(Normal Variation) ที่มีความแตกต่างทางรสนิยม(ทางเพศ)
อย่างไรก็ตาม ผู้เป็นเพศที่สามและเดินมาพบเรานั้นมีจำนวนมาก แต่มีบทสรุป
จากการปรับตัวที่แตกต่างกัน มีทั้งผู้ที่ยอมรับในตนเองได้(Ego syntonic) มี
ความสุขกับชีวิตและบทบาทที่เหมาะสม ได้รับการยอมรับ ยกย่องให้เกียรติจาก
ผู้อื่น มีทั้งผู้ที่ยอมรับตนเองไม่ได้ (Ego dystonic) เสื่อมความศรัทธา กระทั่ง
สูญสลายความรักที่มีต่อตนเอง ในที่สุดลงเองด้วยการป่วยเป็นโรคทางจิตเวช
ต่างๆ เช่น ซึมเศร้า ก้าวร้าว ทำร้ายตนเอง
ไม่ว่าจะเพศไหนยังไงก็คนเหมือนกัน ขอแค่เขาเป็นคนดีอย่าไปรังเกียจเขาเลย
ครับ ไม่มีใครอยากเกิดมาเป็นแบบนี้เห็นใจเขาจะดีกว่านะ
P.s ขอขอบคุณบทความจาก หรรษาดอทคอม
โปรดใช้วิจารณญานในการอ่าน ( ใครเคยอ่านมาแล้วขอโทษด้วยละกัน )
เพศที่สามปกติหรือวิปริต ? ? ?
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!