การพูดคุยเพื่อความรักที่ยืนยาว
อารมณ์ไม่ดี
การบอกให้แฟนรู้ว่าเราหงุดหงิดนั้นนอกจากจะเป็นเกราะป้องกันการทะเลาะ
เบาะแว้งกันแล้วยังสามารถเรียกคะแนนความเห็นใจจากเขาได้ด้วย
เพราะถ้าเขารู้ว่าเราอารมณ์ไม่ดีอยู่ การพูดคุยอย่างอ่อนโยนและอบอุ่นจากเขา
จะช่วยเราได้มากทีเดียว
อารมณ์ไม่มีถูก-ผิด
เราไม่ควรตัดสินว่าเขาควรดีใจ หรือเสียใจ ในเหตุการณ์ไหนก็ตามหรือไม่ควร
จะมีอารมณ์ในเรื่องนั้น เรื่องนี้ เพราะอารมณ์ก็คืออารมณ์ สมมุติว่าเขากำลังผิด
หวังเรื่องเงินเดือนไม่ขึ้นซะที ถ้าเราปลอบเขาว่า " แค่มีงานทำก็ดีถมไปแล้ว อย่า
คิดมาก " อยากจะบอกว่าเป็นคำปลอบที่ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลย การที่เขากำลัง
โกรธ ผิดหวัง และเสียใจกับเหตุการณ์ตรงนั้นมันไม่ได้ทำให้เขาลดระดับอารมณ์
ลงได้เลยแต่กลับเป็นการตัดสินโดยทางอ้อมว่า เขาไม่มีเหตุผลที่จะมีอารมณ์ฉุน
ขนาดนี้ ทำไมเราไม่ลองพูดในทำนองนี้ดูว่า " น่าโมโหเหมือนกันนะ
ที่ค่าตอบแทนมันไม่คุ้มค่าเหนื่อย และเวลาที่เสียไป แล้วคุณจะทำยังไงต่อไปดี
ล่ะ " จะเป็นการเริ่มบทสนทนาที่ดีกว่า
คำพูดแฝงความนัย
ในทุกคำพูดที่เราพูดออกไปนั้น ส่วนใหญ่มักจะมีความหมายอื่นซ่อนอยู่ด้วยนั่นก็
เป็นเพราะว่าเรา ต้องการการตอบรับจากอีกฝ่ายหนึ่ง เป็นธรรมดาจำไว้ว่าการโต้
ตอบที่ดีคือการใช้คำพูดที่ส่งเสริมให้เกิดการสนทนาต่อไป สมมุติว่าแฟนบ่น " ซวย
ชะมัดเลยวันนี้ " เราไม่ควรปากไวตอบกลับไปว่า " แล้วชั้นไม่ซวยกว่าเหรอ ซวย
ซ้ำ ซวยซ้อน ซวยทุกวันเนี่ย " เพราะความนัยของคำพูดนี้เหมือนกับเรากำลังบอก
เขาว่า " จะบ่นไรนักหนาหุบปากซะบ้างเหอะ " เท่านี้เป็นอันจบกันทั้งบทสนทนา
และความสัมพันธ์ทางที่ดี เราควรจะถามเขาว่า " ทำไมเหรอ เป็นอะไร เกิดอะไร
ขึ้นไหนเล่าให้ฟังหน่อยซิ " จากนั้นเขาจะค่อยๆ เริ่มเล่าเหตุการณ์ไม่ดีต่างๆนานา
ที่เจอมาให้เราฟังเองแหละ
วันๆ ทำอะไร
วิธีที่จะทำให้เขามาสนใจความเป็นไปในชีวิตของเราก็คือ เราต้องเริ่มก่อนโดย
การให้ความสนใจ อยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับรูปแบบในชีวิตประจำวันของเขา
ก่อนว่าเป็นอย่างไรบ้าง
ร่วมด้วยช่วยกัน
หมายถึงงานบ้านและกิจกรรมต่างๆ เล็กๆ น้อยๆ อย่างเช่น ล้างจาน ทำกับข้าว
ปลูกต้นไม้ ช่วงเวลากิจกรรมนี่แหละเพราะการพูดคุยกระจุ๋งกระจิ๋งมักเกิดขึ้น
ระหว่างที่ทำกิจกรรมเหล่านั้นนั่นเอง
อย่าย้อน
การด่าสวนโต้ตอบกันกลับไปมานั้น ให้ได้ก็แค่ความสะใจประเดี๋ยวประด๋าว
แต่ไม่ได้ประโยชน์อะไรต่อชีวิตคู่เลย ดังนั้นถ้าเราโดนเขาต่อว่าก็ควรบอกให้
เขารู้ว่า เออ รับทราบแล้วนะ แต่ก็อยากฟังเหตุผลของเขาด้วยสมมุติว่า เขาต่อว่า
เรื่องใช้เงินเปลืองเราก็ไม่ควรเกรี้ยวกราดทันทีและพาดพิงไปถึงวิธีการใช้เงิน
ของเขาว่ามันก็เปลืองพอๆกัน แต่ควรจะยับยั้งอารมณ์และตอบกลับไปว่า " นั่นคือ
มุมมองของคุณใช่ไหมคราวนี้ขอชั้นพูดบ้างนะ " จะเป็นการเปิดบทสนทนา ทีดีเพื่อ
ที่จะได้แบ่งปันความคิดเห็นมากกว่าจะเถียงกัน
ฟัง ฟัง ฟัง
การแสดงออกให้เขารู้ว่าเราใส่ใจและอยากมีส่วนร่วมกับเขาทุกครั้งที่มีการแลก
เปลี่ยนความคิดหรือประสบการณ์นั้น เป็นการแสดงออกว่า " ชั้นแคร์คุณ " ถึงแม้
ว่าบางเรื่องจะน่าเบื่อ ไม่มีสีสันแต่เราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องสรรหาคำพูดที่ฉลาด
เลิศเกินมนุษย์หรอกอย่างน้อยให้เขาได้รับรู้ถึงความพยายามก็พอแล้ว พูดเรื่อง
ขำขันบ้างก็ดีเพราะมันคือยาโด๊ปที่ดีแต่ดูตาม้าตาเรือด้วยนะคะ ก่อนจะปล่อยมุข
ฮาเพราะบางครั้งที่เขาอารมณ์เสีย เขาอาจอยากคุยแบบลึกซึ้ง จริงจังก็ได้
เม้าท์
เม้าท์คนอื่นวันละนิดจิตแจ่มใสค่ะ การคุยกันถึงคนอื่นอันที่จริงก็ไม่ได้เลวร้ายแต่ควร
เลือกเม้าท์คนที่ทั้งเราและเขารู้จักเชื่อไหมว่าการเม้าท์วันละนิดจะทำให้เรากะ
เขาสนิทสนมกลมเกลียวกันทางใจได้มาก
คุยเรื่อยเปื่อยให้ยาวสุดๆ
ถ้าเขาแสดงความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ ก็อย่าเพิ่งไปดักคอเขา เช่น " รู้แล้วๆ
คุณคิดไรอยู่ชั้นรู้หมดแหละ " แต่เราควรจะกระตุ้นให้เขาพูดต่อเพื่อเป็นการเปิด
ประตูสู่การคุย คุย คุยให้นานที่สุดเช่น " จริงเหรอเล่าต่อสิ แล้วเป็นไงต่อล่ะ "
ยกยอปอปั้น
ในความเป็นจริงแล้ว ผู้ชายทุกคนชอบฟังคนอื่นชื่นชมเขาไม่ว่าจะเป็นเรื่องจริงหรือ
เท็จแค่ไหนก็ตาม ถ้าเขาสามารถทำให้อีกฝ่ายหนึ่งพอใจหรือมีความสุขได้ ไม่ว่า
จะเป็นแฟน เพื่อน หรือเพื่อนร่วมงานจะทำให้เขารู้สึกดี เสริมความมั่นใจ
และกำลังใจให้เขาด้วย
แสงสว่างแห่งชีวิต
บอกเขาไปเถอะว่าคำแนะนำต่างๆ นานาของเขาน่ะเป็นสิ่งมีค่ากับเราโดยเฉพาะ
เรื่องที่หนักหนาสาหัสทั้งหลายที่เขาคอยเป็นกำลังใจให้เราจะทำให้เขารู้สึกเป็น
ผู้ชายและเป็นที่พึ่งได้ ระลึกไว้เสมอว่าคู่รักที่จะจีรังยั่งยืนนั้น ควรตัดสินใจเกี่ยว
กับเรื่องสำคัญๆร่วมกันเสมอ
หล่อที่สุด
เป็นธรรมดาของผู้หญิงที่จะมองว่าแฟนเราน่ะหล่อไม่ต้องอายบอกเขาไปเลยว่า
เขาน่ะ หล่อลากดิน สุดเซ็กซี่และน่าชิดใกล้มากขนาดไหนในสายตาคุณอันนี้ใช้
ได้กับคนทุกเพศที่มีความรัก