ช่วงที่ปฎิบัติงานที่แผนกนี้มักจะถูกตามตัวตอนดึก พยาบาลว่าคนไข้ตกเลือดซึ่ง
ส่วนใหญ่คือคนไข้ที่ไปทำแท้งมา หมอมีหน้าที่ก็ขูดมดลูก คนไข้พวกนี้ตั้งท้องไม่
พึงปรารถนา เลยไปทำแท้งกับหมอเถื่อน พวกนี้เขาจะเอาไม้แยงปากมดลูกเพื่อ
ให้ปากมดลูกเปิดออก คุณหมอทุกคนเห็นแบบนี้ก็ต้องขูดมดลูกให้คนไข้ทันที
เพราะไม่เช่นนั้นคนไข้อาจเสียเลือดจนเสียชีวิตได้
ถูกตามตัวแบบนี้บ่อยครั้งเข้าเริ่มเบื่อว่าทำไมเราต้องมาทำอะไรตามหลังผู้กระทำ
ผิด ดูจะเป็นเครื่องมือของหมอเถื่อนและคนไข้ที่หวังทำผิดกฏหมายคือทำแท้ง
เรียกได้ว่าถ้าถามถึงที่มาของคนไข้ว่ามาจากอำเภอใด จะมีชื่ออำเภอหนึ่งใน
จังหวัดอุตรดิตถ์ที่มีคลินิกหมอเถื่อนทำแท้งที่เป็นอันตรายมาก คนไข้ติดเชื้อรุนแรง
มีอยู่คนหนึ่งอายุแค่ 16 ปีเองไปทำงานเสิร์ฟแล้วมีเสี่ยมาออฟไปนอนด้วย ไปๆ
มาๆ เกิดท้อง ก็เลยต้องไปเอาออกเพราะไม่อยากให้ทางบ้านรู้ ปรากฏว่าต้องอยู่
โรงพยาบาลนานมากเพราะติดเชื้อในโพรงมดลูก ท้ายที่สุดเชื้อก็ลุกลามไปทั่ว
ท้องจนเสียชีวิตอย่างทรมาน หมดค่ายาไปเยอะมาก คนไทยเสียชีวิตเพราะทำ
แท้งกันมากมายเหลือเกิน รวมทั้งรัฐเองก็หมดงบไปมากทีเดียว
เมื่อเลือกเรียนต่อแพทย์ทำงานที่พิษณุโลก ในช่วงแรกๆ ก็มีงานตัดตรวจชิ้นเนื้อ
เป็นหลักมากกว่างานผ่าศพ มีอยู่วันหนึ่งได้รับชิ้นเนื้อเป็นก้อนขนาดใหญ่ ส่งมา
จากแผนกสูตินรีเวช เมื่อเอาขึ้นมาตรวจดูจึงพบว่าก้อนเนื้อนั้นน่ะเป็นลำตัวเด็ก
ทารกมีพังผืดพันกับผนังด้านนอกของลำไส้ แต่ไม่มีหัว ดูไปดูมาก็พบว่าชิ้นเนื้อ
ของคนไข้รายนี้มีมาอีกสองถัง อีกถังหนึ่งเป็นมดลูกมีรอยปริแบบนี้เป็นการทำ
แท้งแน่นอน แต่เมื่อไปดูประวัติของคนไข้ก็ให้ตกใจเพราะเป็นคนไข้ที่ถูกส่งมา
จากโรงพยาบาลอำเภอที่มีคุณหมอรุ่นน้องคนหนึ่งเป็นผู้รักษา
เรื่องราวมีอยู่ว่าคนไข้ท้องหกเดือนต้องการทำแท้ง เขาก็รีบไปปรึกษาคุณหมอ
คนนี้ ซึ่งเป็นแพทย์ใช้ทุนอยู่นั่นได้สามสี่ปีแล้ว คุณหมอได้ให้น้ำยาทางสายน้ำ
เกลือแล้วก็กดๆ บีบๆ และยังทำอะไรอีกหลายอย่างที่ฟังแล้วไม่น่าเชื่อว่าจะเป็น
คุณหมอแผนปัจจุบันเรียนจบปริญญามา
ในที่สุดปากมดลูกเปิด คุณหมอได้พยายามจะเอาตัวเด็กออกมา แต่มันยากมาก
ท้ายที่สุดก็ได้เพียงส่วนของศีรษะ พูดง่ายๆ ก็คือคอขาด เขาได้พยายามให้ยาขับ
ออกแต่ไม่สำเร็จ คนไข้ปวดท้องมากขึ้นก็เลยต้องส่งตัวมาโรงพยาบาลพุทธชิน
ราช สูติแพทย์รับคนไข้ก็เลยรีบเอาเข้าห้องผ่าตัด พบว่ามดลูกแตกมีเลือดออกใน
ช่องท้อง ตัวเด็กนั้นหลุดไปยึดติดกับลำไส้ก็เลยค่อยๆ เลาะออกมา ส่วนของ
มดลูกนั้นอักเสบมาก สูติแพทย์ก็เลยต้องตัดทิ้ง
กรณีแบบนี้ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดจากคุณหมอที่เรียนจบปริญญา แต่คงเป็นเพราะ
เขาไม่ได้เรียนต่อเป็นแพทย์เฉพาะทางด้านสูตินรีเวชมั้ง เขาจึงกล้าทำแท้งคนไข้
ที่ท้องตั้งหกเดือนได้ เพราะในทางการแพทย์ถือว่าอันตรายมาก โชคยังดีของคน
ไข้ที่คุณหมอยังยอมส่งตัวมารักษาต่อ เพราะถ้าเขาพยายามปกปิด คนไข้คงต้อง
นอนซมจนเสียชีวิตไปในที่สุด
กรณีนี้เห็นแล้วก็หดหู่คุณหมอว่าทำไมไปให้การรักษาแบบนั้น เพราะนอก
จากเป็นบาปแล้วยังเป็นอันตรายต่อคนไข้อีกด้วย
หลังจากนั้นเมื่อหมอผันตัวเองมาเป็นหมอผ่าศพเต็มตัว เรียกว่าเป็นหมอนิติเวชน่ะ
ก็ได้พบกรณีเกี่ยวข้องกับการทำแท้งการตายของเด็กที่แม่เป็นผู้ลงมือฆ่าบ่อย
มาก แต่ไม่เคยพบการทำแท้งจนตัวผู้หญิงตายเลย อาจเป็นเพราะพื้นที่กรุงเทพ
มหานครมั้ง หรือไม่ก็เป็นเพราะหมอเถื่อนมีเทคโนโลยีดีขึ้น
มาเจอเอาเมื่อหลายปีก่อน เป็นศพหญิงสาวอายุ 18 ปี เสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุ
ที่บ้าน ช่วงนั้นเป็นช่วงก่อนปี 43 ตำรวจไม่ได้ตามไปดูที่เกิดเหตุ สภาพศพเป็น
หญิงสาวหน้าตาดีสวมเสื้อผ้าเรียบร้อยดี เป็นชุดท้อง ตามตัวไม่มีบาดแผลใดๆ
เมื่อผ่าศพดูภายในก็พบว่าเขาท้องประมาณหกเดือน ผ่ามดลูกดูมีแต่สายรก สาย
สะดือ ตัวเด็กหายไป แสดงว่าผู้ตายไปทำแท้งมาแน่นอน
แต่จากข้อมูลเป็นการนอนเสียชีวิตที่บ้าน ทำให้สงสัยว่าเขามีอาการอะไรบ้าง
ไหม ผู้ตายเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยเอกชนพักอยู่กับยาย แม่นั้นไปๆ มาๆ ตอน
สิ้นเดือนเพื่อเอาเงินมาให้ ยายเล่าว่าหัวค่ำเห็นร้องโวยวายให้ช่วยแต่เมื่อเข้าไป
ช่วยก็ถูกไล่ออกมา ยายก็เลยปล่อยให้โวยวายจนเงียบไปเอง โดยไม่รู้ว่าที่แท้
เขาคงทุรนทุรายจากพิษการอักเสบจากการทำแท้ง
คดีนี้น่าจะมีฆาตกร 2 คน ฆาตกรหลักคือหมอที่ทำแท้งให้ เขาไม่ควรปล่อยให้
คนไข้กลับบ้านมาในสภาพนี้ สอบถามจากเพื่อนสนิทดูเขาก็ยอมบอกว่าเป็นคลินิก
เถื่อนริมทางรถไฟแถบมักกะสัน พญาไท หมอบอกทั้งตำรวจและกองประกอบ
โรคศิลป์ แต่คงทำอะไรไม่ได้มั้งเพราะเหตุการณ์มันผ่านไปแล้ว แต่ฆาตกรร่วมอีก
คนคือผู้ชายที่ทำให้เขาท้อง เพื่อนเองก็ไม่รู้ว่าใครน่าจะเป็นพ่อของเด็กในท้อง
เขารู้แต่ว่าผู้ตายมีผู้ชายไม่ซ้ำหน้ามากมาย
ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตนั้น คนทั่วไปจะไม่ค่อยทราบว่าหากมีการคงไว้ของเนื้อ
ตายในร่างกายมนุษย์ อาจทำให้เนื้อตายกลายเป็นพิษหรือติดเชื้อทำให้ไตวาย
ระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว บวกกับคนท้องคงไม่รู้ว่าการทำแท้งในช่วงอายุ
ครรภ์ที่เกินสิบแปดอาทิตย์ไม่ควรทำแท้งเด็ดขาดเพราะมีอันตรายต่อชีวิต นัก
ศึกษารายนี้ท้องถึงหกเดือนจึงไม่ควรทำแท้งอย่างยิ่ง
ที่หมอเล่ามาเป็นมุมมมองผู้ไปทำแท้งว่ามีอัตรายอะไรบ้าง ทางที่ดีระวังอย่าให้มี
การตั้งท้องน่าจะดีที่สุด เพราะคนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจว่าการตั้งท้องมีกลไกอย่างไร
จะว่าง่ายก็ง่ายจะว่ายากก็ยาก ทั้งๆ ที่ช่วงเวลาเหมาะที่ไข่กับอสุจิจะปฏิสนธิได้มี
ระยะเวลาสั้นมาก แต่ก็แปลกที่คนไม่อยากมีลูกกลับมีกันถี่ยิบ ส่วนคนที่อยากมี
พร้อมทุกอย่างกลับต้องไปเสียเงินมากมายเพื่อทำให้มี แถมกว่าจะมีได้ก็ต้องล้ม
เหลวกันหลายครั้งมาก บางคนหมดไปเป็นล้าน หมอเคยรู้จักกับครอบครัวหนึ่งที่
เขารอลูกนานเจ็ดปีเลยตัดสินใจขายบ้านเอาเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายในการผสม
เทียม เท่าที่ทราบหมดไปล้านกว่าบาท ได้ลูกสาวคนแรก พอประตูเปิดคนที่สอง
ก็ตามมาโดยไม่ต้องเสียเงิน แต่กลายเป็นว่าต้องเอาเช่าบ้านแทน
... เฮ้อ! เอาล่ะ คุยเรื่องทำแท้งมาก็ไม่รู้ว่าวัยรุ่นเขาจะมาอ่านบทความนี้กัน
หรือเปล่า ท้องแล้วไปทำแท้งน่ะน่ากลัวนะ ผู้ใหญ่พูดก็ไม่ฟังซะด้วย
P.s ขอขอบคุณบทความจาก
โปรดใช้วิจารณญานในการอ่าน ( ใครเคยอ่านมาแล้วขอโทษด้วยละกัน )