
ต้นกำเนิดขนมครก

ถ้าพูดถึงขนมที่คนไทยทุกภาคทุกคนต้องรู้จักดีถึงกลิ่นและรสชาติอันหอมหวานของมัน คงหนีไม่พ้น ขนมครก นั่นเองซึ่งเราสามารถหาซื้อได้ตามท้องตลาดทั่วไป
นู๋มะลิโปรดปรานขนมชนิดนี้เป็นพิเศษเลยแหล่ะเพื่อนๆ (สถานที่ๆนู๋มะลิไปชิมและติดใจมากที่สุดก็คงจะเป็นเกาะเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรีเจ้าค่ะ) รับประทานตอนร้อนๆเอาขึ้นจากเตา กะทิเยิ้มๆหวานๆมันๆ นึกถึงและอดน้ำลายจะไหลไม่ได้เลย อิอิ แต่กินมากแล้วระวังจะเผละนะ เตือนไว้ก่อน อิอิ ในเมื่อก็โปรดปรานและนู๋มะลิเลยนำตำนานต้นกำเนิดของขนมน่าอร่อยชนิดนี้มาฝากเพื่อนๆกัน ไปติดตามชมกันได้เลยจ้า
เรื่องของขนมครก
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีหนุ่มน้อยผู้ยากไร้เงินทองคนนึงชื่อว่ากะทิ ได้เกิดไปหลงรักแป้งสาวน้อยแสนสวย ซึ่งเป็นลูกสาวคนเดียวของผู้ใหญ่บ้านที่มีอิทธิพลล้นฟ้า แป้งและกะทินั้นรักกันมาตั้งแต่แรกพบเมื่อครั้งเยาว์วัย
ครั้นเมื่อถึงงานลอยกระทงในปีที่ทั้งคู่มีอายุเข้าวัยแรกแย้มทั้งสองได้อธิษฐานว่า ขอให้ได้ครองรักกันอย่างมีความสุข จะรักกันชั่วฟ้าดินสลาย จะไม่มีอะไรมาพรากจากกันได้ ดังนั้นกะทิจึงตั้งใจมั่นว่าจะทำงานเก็บเงิน เก็บหอมรอมริบเพื่อที่จะนำไปสู่ขอสาวน้อยลูกผู้ใหญ่บ้านที่ตนรักปานดวงใจ
แต่แล้วสวรรค์เบื้องบนก็ไม่เป็นใจให้ความรักของทั้งสอง เมื่อผู้ใหญ่บ้านพ่อของแป้งรู้จึงคิดจะแยกทั้งสองให้จากกัน โดยที่ทั้งส่งคนไปทำร้ายกะทิหวังให้หลาบจำจนไม่กล้าเด็ดดอกฟ้าอีก แต่ไฉนเลยพลังแห่งความรักจะทำให้กะทิหยุดรักแป้งแค่นั้น เขาก็ตั้งใจเก็บเงินต่อไปเพื่อจะไปสู่ขอแป้งให้จงได้ ผู้ใหญ่เห็นว่ากะทิไม่ยอมลดลาง่ายๆแน่นอน จึงตัดสินใจยกแป้งให้กับปลัดหนุ่มหน้ามนคนบางกอกทันทีที่มาสู่ขอหนูแป้ง
ในวันงานผู้ใหญ่คิดว่ายังไงซะกะทิก็ต้องมาล้มงานอย่างแน่นอน ท่านจึงสั่งให้คนขดสร้างหลุมพรางไว้รอกะทินั่นเอง เมื่อแป้งรู้เข้าจึงคิดจะไปเตือนชายหนุ่มที่ตนรักไม่อยากให้เขามีอันตราย เมื่อเห็นหน้าคนที่ตนรัก ทั้งคู่ก็วิ่งเข้าหากันอย่างดีใจสุดชีวิต แต่แล้วแป้งก็ได้ตกไปในหลุมนั้น กะทิก็เลยกระโดดตามลงไปเพื่อจะช่วยแต่ก็ไม่สามารถขึ้นมาได้ อารามดีใจสมุนของผู้ใหญ่บ้านซึ่งแอบซุ่มอยู่ ก็รีบเข้ามาโกยดินฝังกลบหลุมที่ทั้งคู่หล่นลงไป เพราะคิดว่าในหลุมมีเพียงผู้อาภัพรักแต่ผู้เดียว ...
ในตอนเช้าผู้ใหญ่ก็มาที่หลุมพรางที่ได้ทำไว้แล้วสั่งให้ลูกน้องขุดเพื่อดูผลงานชิ้นโบว์แดงที่ทำไว้ แทบไม่เชื่อสายตาเบื้องล่างปรากฏร่างของ กะทิตระกองกอดทับร่างหนูแป้งลูกสาวของตน ทั้งสองนอนตายคู่กันอย่างมีความสุข เมื่อรอยยิ้มถูกเปลี่ยนเป็นน้ำตา ผู้ใหญ่บ้านรำพึงต่อหน้าศพของลูกสาวว่า..
"พ่อเสียใจ พ่อไม่น่าทำร้ายความรักของดวงใจของพ่อเองเลย"
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาอนุสรณ์แห่งความรักที่กระทำสืบทอดกันมาจนเป็นประเพณี ทุกแรม ๖ ค่ำ เดือน ๖ ชาวบ้านที่ศรัทธาในความรักของกะทิ กับ แป้ง ก็จะตื่นตั้งแต่เช้ามืด เข้าครัวเพื่อทำขนมที่หอมหวานปรุงจากแป้ง และกะทิ บรรจงหยอดลงหลุม พอสุกได้ที่ก็แคะจากหลุม แล้วนำมาวางคว่ำหน้าซ้อนกันเป็นสัญลักษณ์ว่า "จะได้อยู่ร่วมกันตลอดไป" ขนมนี้จึงถูกเรียกขานกันในนาม "ขนมแห่งความรัก" หรือ ขนม คน-รัก-กัน ต่อมาถูกเรียกย่อ ๆ ว่า 'ขนม ค-ร-ก' นั่นเอง
ถึงเรื่องนี้จะไม่จบแบบแฮบปี้ เอนดิ้ง แต่ก็ทำให้ทุกคนอยากมีความรักที่บริสุทธิ์แบบนี้ใช่ม้า นู่มะลิก็เป็นหนึ่งในนั้นเหมือนกัน อิอิ
เฮ้อ เศร้าจังเลย ทำไมผู้ใหญ่บ้านใจร้ายจัง แง แง อยากเอาไม้หน้าสามไปดักฟาดจริงๆเลย แต่ถึงยังไงแป้งและกะทิก็ได้อยู่ด้วยกันจนนาทีสุดท้ายของชีวิตและได้มีโอกาสรักกันตราบจนลมหายใจสุดท้าย โรแมนติก ที่ซู้ดดดดดด เลย นู๋มะลิขอตัวไปเช็ดน้ำตาก่อนนะเจ้าคะ เดี๋ยวตาบวม ไม่สวย อิอิ ถ้ามีเรื่องที่น่ารู้ น่าอ่าน และมีประโยชน์ นู่มะลิจะเอามาอัพเดตอีกแน่นอนจ้า


กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
























กระทู้ล่าสุด


รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
















































Love illusion ความรักลวงตา เพลงที่เข้ากับสังคมonline
Love illusion Version 2คนฟังเยอะ จนต้องมี Version2กันทีเดียว
Smiling to your birthday เพลงเพราะๆ ไว้ส่งอวยพรวันเกิด หรือร้องแทน happybirthday