รู้ไหมโรคเหงือกติดต่อกันได้ด้วยนะ
เมื่อเวลาที่เรายิ้มนั้น ฟันจะเป็นอวัยวะที่เห็นเด่นชัดที่สุด รองลงมาจึงจะเป็นเหงือก นี่อาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราใส่ใจดูแลรักษาฟันมากกว่าเหงือกได้ ทั้งนี้โรคเหงือกนั้นเกิดจากคราบแบคทีเรียที่ทำความสะอาดออกไปไม่หมด และเกาะติดแน่นอยู่ตามขอบเหงือก คราบแบคทีเรียนี้จะมีลักษณะเป็นแผ่นฟิล์มบางๆ สีขาวขุ่นหรือเหลืองซึ่งจะปล่อยกรดออกมาทำลายเนื้อเยื่อเหงือก ทำให้เหงือกอักเสบได้
ทั้งที่อันที่จริงแล้ว เหงือกเองก็มีส่วนสำคัญมาก เนื่องจากเป็นส่วนที่ช่วยให้ฟันยึดติดกัน ดังนั้นเราจึงควรดูแลรักษาเหงือกให้สะอาดพอ ๆ กับที่ดูแลฟันนะคะ เพราะว่าคนไทยกว่าร้อยละ 90 มีปัญหาเรื่องโรคเหงือก
และเมื่อเราเกิดอาการเหงือกอักเสบแล้วอาการที่ตามก็คือ มีกลิ่นปาก เลือดออกตามไรฟัน มีอาการเหงือกร่น ฟันโยก และมีอาการเจ็บหรือปวดบริเวณเหงือกด้วย แต่อาการที่น่าหนักใจที่สุด เห็นจะเป็นการมีกลิ่นปากนะคะ เพราะว่าเราเองก็คงไม่ค่อยอยากจะคุยกับคนอื่น ในขณะที่คนอื่นเองก็คงจะลำบากใจที่จะต้องกลั้นหายใจคุยกับเราด้วย
แล้วที่น่ากลัวกว่านั้นก็คือ โรคนี้สามารถติดต่อกันได้โดยผ่านทางน้ำลาย จากการใช้แปรงสีฟันร่วมกัน หรือแม้แต่เวลาจูบกันก็ทำให้ติดโรคนี้ได้แล้ว (ง่า ........ )
แม้ว่าโรคนี้จะติดต่อถึงกันได้ แต่สำหรับผู้ที่เป็นโรคนี้ในระยะเริ่มต้นนั้น สามารถแก้ไขได้ โดยต้องแปรงฟันให้สะอาดทุกวัน และต้องใช้ไหมขัดฟันทุก ๆ วันด้วย จากนั้นควรไปพบแพทย์เพื่อให้ทันตแพทย์รักษาตามขั้นตอนต่อไป
แต่ในรายที่อยู่ในขั้นโคม่า คุณจำเป็นต้องต้องได้รับการผ่าตัด ทำการยกเหงือกเพื่อที่จะดูการลุกลามไปที่รากหรือกระดูก คราบจุลินทรีย์และหินปูนที่ได้ทำการขจัดออกจากบริเวณและจากกระดูกฟัน จากนั้นนำเหงือกกลับสู่ตำแหน่งที่เหมาะสมที่เหมาะแก่การทำความสะอาดหลังการรักษา และอาจจะต้องมีการปลูกกระดูกทดแทนด้วย
ว๊าาา ... ฟังแล้วน่ากลัวเน๊อะ เพราะฉะนั้นเพื่อน ๆ ที่นี่ก็ต้องหมั่นดูแลรักษาความสะอาดในช่องปากให้ดี ๆ นะคะ เพื่อที่ว่าจะได้ปลอดภัย ไม่มีโรคเกี่ยวกับช่องปากมาย่ำกราย แถมไม่เป็นตัวแพร่เชื้อไปให้คนอื่นด้วย หุหุหุ