สังคมเราตอนนี้นี่มันน่ากลัวเน้อ ไหนจะเรื่องข้าวยากหมากแพง เงินไม่พอใช้ ไหนจะการเมืองอันร้อนระอุ ประท้วงนั่น ก่อม็อบนี่ ซึ่งไอ้เรื่องทั้งหลายเหล่านี้แหละน้าที่เป็นต้นเหตุให้เกิดเรื่องไม่ดีซะเป็นส่วนใหญ่
โดยเฉพาะข่าวปล้น จี้ ฆ่า ขมขืน เนี่ยมีได้ทุกวัน นู๋มะลิภาวนาทุกครั้งก่อนอ่านนสพ.หรือดูข่าว เพราะไม่อยากได้ยิน เห็น หรือรับรู้เรื่องแบบนี้เล้ย
จำหน้าคนร้ายยังไงไม่ให้ลืม
และด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ เหล่าคนร้ายก็มักจะเลือกผู้ที่จะโดนกระทำเป็นผู้หญิงเพศแม่มันซะเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นเพื่อไม่ให้คนร้ายต้องลอยนวล เรามาดูวิธีที่จะสังเกตุและจดจำคนร้าย เพื่อไปแจ้งความกับตำรวจผู้พิทักษ์สันติราชให้เอาผิดกับคนชั่วให้หมดไปดีเลยดีกว่า
ข้อ1. เพศและเชื้อชาติ
เราต้องบอกให้ได้ว่าคนร้ายเป็นเพศไหน หรือแม้กระทั่ง เชื้อชาติ วึ่งเราอาจจะรู้ได้จาก เสียง และสำเนียงการพูด เป็นต้น
ข้อ2. รูปลักษณ์ภายนอกที่มองเห็นได้ชัด
เมื่ออยู่ในสถานการณ์จำเป็น ข้อสำคัญเลย คือ ตั้งสติ และพยายามจดจำรูปพรรณ สัณฐานของคนร้ายให้ได้มากที่สุด จำให้แม่นเพื่อจะได้บอกตำรวจได้ชัดเจน เช่น ว่า สูงต่ำดำขาวแค่ไหน ไม่ไฝฝ้า รอยตำหนิ แผลเป็นอะไร เป็นต้น
ข้อ3. เครื่องแต่งกายและทรงผม
คนเราสามารถเปลี่ยนเสื้อผ้าได้หลากหลายรูปแบบและสามารถเปลี่ยนเวลาใดก็ได้ก็จริง แต่บางครั้งคนร้ายเมื่อกระทำความผิดแล้วก็พยายามจะหนีเอาตัวรอดทุกคน ดังนั้น การจดจำเสื้อผ้าว่าแต่งตัวแบบไหน ก็อาจจะมีประโยชน์กับรูปคดีได้
ส่วนทรงผมนั้นนู่มะลิเชื่อว่า เป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้ยากจะเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญในการตามตัวคนร้ายเจอได้ เช่น คนร้ายอาจจะหัวล้าน มีจอน มีหนวด ไว้ผมยาวประบ่า เป็นต้น
ข้อ4. ลักษณะและพฤติกรรมที่เด่นสะดุดตา
คนบางคนมักจะเป็นที่รู้จัก เด่นเป็นสง่า ใครๆก็รู้จัก เพราะเป็นผลมาจากพฤติกรรมแปลกๆหรือพฤติกรรมที่เด่นๆของคนๆนั้นนั่นเอง ซึ่งนู๋มะลิคิดว่าจะมีส่วนช่วยให้ตำรวจสืบสาวหาคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว จากเหตุผลข้างต้น อย่างเช่น คนร้ายอาจจะชอบเกาศีรษะ ขากเสลด หรือแม้แต่วิ่งลากขา ทำให้เกิดเสียงดัง เป็นต้น
ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็แล้วแต่ถ้าหากเราขาดสติ ตกใจทำอะไรไม่ถูกแล้ว นู๋มะลิว่ามันก็ไม่ได้ผลหรอกค่ะ
สุดท้าย วิธีที่ดีที่สุดเพื่อความปลอดภัยของคุณผู้หญิงทั้งหลายก็คือ พยายามไม่ไปอยู่ในสถานการณ์ที่ล่อแหลมหรือเสี่ยงต่อเหตุการณ์ที่อันตรายของตัวคุณเองนะคะ
**จำไว้ว่าสติมาปัญญาเกิดเจ้าค่ะ