ฟุ้งซ่าน.รำคาญใจ
ฟุ้งซ่าน….รำคาญใจ
นักปฏิบัติทุกท่านคงรู้จักอารมณ์นี้ดี ความฟุ้งซ่าน รำคาญใจ ความกระวนกระวายกลัดกลุ้ม หรือที่เรียกว่าอุทธัจจกุกกุจจะ เป็นหนึ่งในนิวรณ์อันเป็นอกุศลธรรมที่กั้นจิตไม่ให้ก้าวหน้าในคุณธรรมนับเป็นอุปสรรคสำคัญอันหนึ่งในการปฏิบัติของนักกรรมฐานทั้งหลาย
เหตุที่ทำให้อุทธัจจกุกุกจจะเกิดขึ้น หรือกำเริบขึ้นนั้น ได้แก่ ชอบคิดถึงปรุงแต่งในเรื่องต่างๆจนทำให้จิตใจไม่ยอดนิ่ง คอยแส่ส่ายดิ้นรนไปคิดเรื่องภายนอก และเกิดความเบื่อหน่ายไม่คิดจะปฏิบัติต่อไป
ธรรมสำหรับละความฟุ้งซ่านรำคาญใจ มีอยู่ 6 อย่างด้วยกัน คือ
1.ความเป็นพหูต ได้สดับเล่าเรียนมากเมื่อรอบรู้ในสิ่งต่างๆพอควร แล้วก็ทำไม่เกิดความเคลือบแคลงสงสัยขึ้นในใจ จิตจึงไม่สัยส่ายคิดนึกไปสู้อารมณ์ภายนอก
2.การไต่ถามสิ่งที่สงสัย ไม่ปล่อยให้ความคิดสงสัยต่างๆที่เกิดขึ้นคั่งค้างในทำให้เกิดความวุ่นวายใจ
3.การรอบรู้ในพระวินัย ( ศีล ) ทำให้ปรพฤติหรือกระทำแตในส่งที่ถูกต้อง ไม่ต้องพะวงคิดนึกหวาดกลัวสิ่งใดๆ จิตใจจึงไม่เศร้าหมอง เกิดความสบายใจขึ้น
4.การคบหาสมาคมผู้ใหญ่ ซึ่งท่านเหล่านั้นะช่วยชี้แนะตักเตือน กับทั้งจะทำให้ต้องสังวรระวังไม่ว่าจะเป็นกิริยา วาจาท่าทาง ตอลดนความคิด ทำให้เดความสำรวมขึ้น
5.ความเป็นผู้มีกัลยาาณมิตร เลือกคบหาแต่เพื่อนที่เป็นคนดี มีใจมั้นคงหนักแน่น ไม่เป็นคนชอบเพ้อฝัน เพ้อเจ้อ เหลาะแหละไร้จุดหมาย
6.การกล่าวแต่คำที่เป็นสัปปายะ คือกล่าวแต่ถ้อยคำที่มีสาระเป็นไปเพื่อความสงบระงับไม่ซุ้งซ่าน งดเว้นการกล่าวถ้อยคำเพ้อเจ้อ เหลาะแหละไร้จุดหมาย
ที่มา : ธรรมะสว่างใจ ฉบับที่3
เหตุที่ทำให้อุทธัจจกุกุกจจะเกิดขึ้น หรือกำเริบขึ้นนั้น ได้แก่ ชอบคิดถึงปรุงแต่งในเรื่องต่างๆจนทำให้จิตใจไม่ยอดนิ่ง คอยแส่ส่ายดิ้นรนไปคิดเรื่องภายนอก และเกิดความเบื่อหน่ายไม่คิดจะปฏิบัติต่อไป
ธรรมสำหรับละความฟุ้งซ่านรำคาญใจ มีอยู่ 6 อย่างด้วยกัน คือ
1.ความเป็นพหูต ได้สดับเล่าเรียนมากเมื่อรอบรู้ในสิ่งต่างๆพอควร แล้วก็ทำไม่เกิดความเคลือบแคลงสงสัยขึ้นในใจ จิตจึงไม่สัยส่ายคิดนึกไปสู้อารมณ์ภายนอก
2.การไต่ถามสิ่งที่สงสัย ไม่ปล่อยให้ความคิดสงสัยต่างๆที่เกิดขึ้นคั่งค้างในทำให้เกิดความวุ่นวายใจ
3.การรอบรู้ในพระวินัย ( ศีล ) ทำให้ปรพฤติหรือกระทำแตในส่งที่ถูกต้อง ไม่ต้องพะวงคิดนึกหวาดกลัวสิ่งใดๆ จิตใจจึงไม่เศร้าหมอง เกิดความสบายใจขึ้น
4.การคบหาสมาคมผู้ใหญ่ ซึ่งท่านเหล่านั้นะช่วยชี้แนะตักเตือน กับทั้งจะทำให้ต้องสังวรระวังไม่ว่าจะเป็นกิริยา วาจาท่าทาง ตอลดนความคิด ทำให้เดความสำรวมขึ้น
5.ความเป็นผู้มีกัลยาาณมิตร เลือกคบหาแต่เพื่อนที่เป็นคนดี มีใจมั้นคงหนักแน่น ไม่เป็นคนชอบเพ้อฝัน เพ้อเจ้อ เหลาะแหละไร้จุดหมาย
6.การกล่าวแต่คำที่เป็นสัปปายะ คือกล่าวแต่ถ้อยคำที่มีสาระเป็นไปเพื่อความสงบระงับไม่ซุ้งซ่าน งดเว้นการกล่าวถ้อยคำเพ้อเจ้อ เหลาะแหละไร้จุดหมาย
ที่มา : ธรรมะสว่างใจ ฉบับที่3
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!