ลาเต้ ศิลปะบนฟองนม
สำหรับคอกาแฟคงไม่มีใครไม่รู้จักกาแฟที่มีนามว่า ลาเต้ (Latte) อย่างแน่นอน
กาแฟลาเต้นั้น ก็คือกาแฟที่เตรียมด้วยนมร้อน โดยการเทเอสเพรสโซ 1/3 ส่วน และนมร้อนอีก 2/3 ส่วน ลงในถ้วยพร้อมๆ กัน และจะหยอดโฟมนมหนาประมาณ 1 ซม. ทับข้างบน
และเมื่อพูดถึง ลาเต้ สิ่งที่หลาย ๆ คนมักจะนึกถึงก็คือ ลวดลายบนโฟมนม ที่ทำให้กาแฟนั้นดูน่ารับประทาน แต่ก็แอบเสียดายไม่อยากดื่มเพราะภาพสวย ๆ บนฟองนมเลยเหมือนกัน
ว่ากันว่า ศิลปะการบรรจงวาดลวดลายฟองนมนั้นเกิดมาจากชาวอิตาเลี่ยนที่ชอบเทนมพรวดลงในแก้วกาแฟ จนเกิดเป็นลวดลายขึ้นมา จากนั้นจึงมีการสรรค์สร้างเป็นลวดลายต่าง ๆ ตามมา
แล้วศิลปะบนฟองนมนี้ก็บินข้ามน้ำข้ามทะเลไปแพร่หลายที่สหรัฐอเมริกา แล้วมาฮิตสุด ๆ ที่ญี่ปุ่น และแพร่หลายไปยังส่วนต่างๆ ของโลกไม่เว้นแม้แต่พี่ไทยของเราด้วย
เทคนิคการวาดลวดลายบนฟองนมของ ลาเต้นั้น แบ่งออกได้เป็นสามแบบคือ
แบบแรก Free Hand Pour ก็คือการเทโฟมนมลงบนน้ำกาแฟเอสเปรสโซ(กาแฟดำเข้มข้น)แล้วขยับถ้วยให้เป็นลวดลายต่างๆ ซึ่งลวดลายนั้นเกิดจากการแทรกตัวระหว่างโฟมนมกับน้ำกาแฟ
แบบที่สอง Draggin เป็นการทำลาเต้ อาร์ต โดยใช้ช้อนตักโฟมนมลงไปบนน้ำกาแฟเอสเปรสโซซึ่งถูกราดทับด้วยน้ำนมประมาณ 3 ใน 4 ของถ้วย โดยโฟมนมด้านบนอยู่ในระดับที่เสมอกับขอบถ้วย จากนั้นจึงหยอดซอสที่ใช้ในการแต่งหน้า เช่น ช็อกโกแลตซอส คาราเมลซอส ราสเบอรี่ซอส ให้เป็นลายเรขาคณิตต่างๆ
และแบบสุดท้ายแบบที่สาม ส่วนเทคนิคผสมระหว่าง Free Hand Pour และ Dragging นั้นนิยมใช้กับการทำรูปสัตว์หรือการ์ตูนต่างๆ โดยจะใช้วิธีเทโฟมนมลงบนน้ำกาแฟเอสเปรสโซให้โฟมนมเป็นวงขนาดใหญ่ตรงกลางถ้วยและเหลือแนวเครม่า(โฟมกาแฟ)รอบถ้วยประมาณ 2 เซนติเมตร จากนั้นใช้ช้อนขนาดเล็กตักโฟมนมหยอดลงไปเพื่อสร้างโครงของรูปที่ทำ เช่น หู เขา หรือมือของสัตว์ แล้วใช้ก้านไม้จุ่มเครม่า(โฟมกาแฟ)ซึ่งอยู่รอบนอกมาแต้มเป็นหน้าตา จมูก ปาก หรือลายละเอียดต่างๆ
วันอาทิตย์ชิล ชิล แบบนี้ใครอยากจะลองออกไปเดินเล่นให้เย็นใจ แล้วแวะจิบลาเต้สักหน่อยก็ได้นะคะ