โอปนยิโก อกาลิโก...ฯ
ข้อปฏิบัติเป็นของมีอยู่ทุกเมื่อ....
ข้อปฏิบัติสำหรับผู้ปฏิบัติทั้งหลาย ไม่มีปัญหา...'โอปนยิโก'
น้อมจิตเข้ามาพิจารณา กาย วาจา จิต...'อกาลิโก'...อันเป็น
ของมีอยู่...'อาโลโก'...สว่างโร่อยู่ทั้งกลางวันและกลางคืน
'ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูฮีติ'...อันนักปราชญ์ทั้งหลาย...
มีพระพุทธเจ้า และพระอริยสาวกเจ้าทั้งหลายผู้น้อมเข้ามา
พิจารณาของมีอยู่นี้ ได้รู้แจ้งจำเพาะตัวมาแล้ว เป็นตัวอย่าง
ไม่ใช่ว่ากาลนั้นจึงจะมีกาลนี้จึงจะมีย่อมมีอยู่ทุกกาลทุกสมัย
ผู้ปฏิบัติย่อมรู้ได้เฉพาะตัว คือผิดก็รู้จัก ถูกก็รู้จักในตนของ
ตนเอง ดีชั่วอย่างไรตัวของตัวย่อมรู้จักดีกว่าผู้อื่น ถ้าเป็น
ผู้หมั่นพินิจพิจารณาไม่มัวประมาท เพลิดเพลินเสีย....
ตัวอย่างที่มีมาแล้วคือ...มาณพ 16 คน ซึ่งเป็นศิษย์ของ
พาวรีพราหมณ์ ท่านเหล่านี้นั้นเจริญญานกสิณติดอยู่ในรูป
ฌานและอรูปฌาน พระบรมศาสดาจึงตรัสสอนให้พิจารณา
ของมีอยู่ในตน ให้เห็นแจ้งด้วยปัญญาให้รู้ว่า กามภพเป็น
เบื้องต่ำ รูปภพเป็นเบื้องกลาง อรูปภพเป็นเบื้องบน...
แล้วถอยลงมาให้รู้ว่า อดีตเป็นเบื้องต่ำ อนาคตเป็นเบื้องบน
ปัจจุบันเป็นท่ามกลาง แล้วชักเข้ามาหาตัวอีกให้รู้ว่า...เบื้อง
ต่ำแต่ปลายผมลงไป เบื้องบนแต่พื้นเท้าขึ้นมา เบื้องขวาฐาน
กลาง เมื่อท่านเหล่านั้นมาพิจารณาอยู่อย่างนี้...'ปัจจัตตัง'..
จึงรู้เฉพาะขึ้นที่ตัวของตัวโดยแจ่มแจ้ง สิ้นความสงสัยข้อ
ปฏิบัติ ไม่ต้องไปเที่ยวแสวงหาที่อื่นให้ลำบาก...ฯ
~หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต~
ขอนอบน้อมแด่คุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์