แยกจิตและอารมณ์ เห็นเป็นของ "สักว่า" เท่านั้น
ถ้าเราไม่เข้าใจทะลุตรงนี้ เราก็ไม่สบายใจเท่านั้นแหละ...เพราะว่ามัน
มีจิตอยู่ มันมีอารมณ์อยู่ พระพุทธเจ้าท่านจึงสอนว่าให้มันเหนือขึ้นไป
อีก เหนือสิ่งเหล่านี้ขึ้นไป ให้มันเหนือใบไม้ ให้มันเหนือลม...ว่าใบไม้ก็ไม่
มี ลมก็ไม่มี...จิตนี้ก็สักว่าจิต อารมณ์ก็สักว่าอารมณ์ มันหมดตรงสิ่ง
ที่มันไม่มีแล้ว มันก็หมดไป หมดทั้งใบไม้ หมดทั้งลม 'สักแต่ว่า'...ทั้งนั้น
มันต้องเห็นไปถึงนั้น มันถึงจะไม่กวัดแกว่ง ไม่อย่างนั้นก็จะเถียงกันอยู่
อย่างนั้น...มันติดสมมุติอย่างนี้..เป็นธรรมดาเราฝึกใหม่ๆก็ต้องเป็นอย่าง
นี้ อาการทั้งหลายเหล่านี้ มันจะแสดงให้เรามีความรู้สึกนึกคิดตลอดเวลา
อยู่ อีกวันหนึ่งก็ระอามัน...เพราะเราเห็นชัดว่ามันเป็นอยู่อย่างนี้ นี่มันเป็น
อย่างนี้ เป็นธรรมดา...บางสิ่งที่เห็นแล้วมันวุ่นวายขึ้น ถ้าพิจารณาแล้ว...
มันสงบ สงบแล้วก็นึกว่าเอาแล้วมันเสร็จแล้ว...มันไม่เสร็จน่ะ มันมีอยู่อย่าง
นี้ มีเมื่อไหร่ก็พิจารณาไปเรื่อยๆไปอย่างนั้น ไม่ใช้ตัวปัญญาตัดแล้วมันก็ยัง
เหลือของมันอยู่อย่างนั้น....ฯ
~ธรรมเทศนา...พระโพธิญาณเถระ (หลวงปู่ชา สุภัทโท)~
ขอนอบน้อมแด่คุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์