ปฏิบัติอยู่ในความวุ่นวาย

ปฏิบัติอยู่ในความวุ่นวาย


พุทธบริษัทเราถ้ารู้จักธรรมะตามความเป็นจริงแล้ว
ก็จะไม่ขัดแย้งอะไรทั้งนั้น....
เช่น ว่าในโลกที่เราอยู่นี้สักแต่ว่า
ที่มันแสนจะวุ่นวายอะไรก็ตามทีเถอะ เราที่มาอยู่ในโลกนี้
ก็ไม่ต้องเสียใจและดีใจอะไร...ถึงแม้พระพุทธเจ้าเราก็ตาม
สาวกก็ตาม ท่านก็เกิดอยู่ในโลกที่มันแสนจะวุ่นวาย
แต่ท่านก็เอาความวุ่นวายนี่แหละ....

ปฏิบัติอยู่ในความวุ่นวายนี่...
ตรัสรู้...รู้ธรรมะในโลกนี้ ไม่ใช่ไปเอาโลกอื่น
เอาจากสิ่งที่มันวุ่นวายนี่เอง หรือจะพูดง่ายๆว่า...
ไอ้โลกที่เราอาศัยอยู่นี่ มันเป็นความจริง
มันเป็นสิ่งที่พอดีของมันอยู่แล้ว แต่ว่าเราคิดไม่ถึงนั้น...
เรารู้ไม่ถึงธรรมะอันนั้น มันก็เลยเกิดความวุ่นวาย...

ฉะนั้น..แสนที่มันจะทุกข์ยากลำบากประการใด
พระพุทธเจ้าของเราท่านก็พยายามตรัสรู้ในที่นี่
สาวกทั้งหลายก็ตรัสรู้ในที่นี่ ไม่ไปที่อื่น...
เอาสิ่งความสะอาดนี้อยู่ในสิ่งสกปรก...
เอาสกปรกออกแล้วก็ถึงความสะอาด...
อย่างนั้นโลกอันนี้ท่านจึงเรียกว่า...'โลกวิทู'....รู้แจ้งโลก

ถ้าท่านรู้แจ้งโลกเมื่อไหร่เป็นต้น
มันก็จะเกิดความสว่างอยู่ในโลก ถ้าไม่รู้แจ้งโลกเมื่อไหร่
เป็นต้น มันก็ขัดข้องอยู่นั่นล่ะ...ตลอดกาลตลอดเวลา
ถึงแม้จะหนุ่มก็ขัดข้อง...จะมีอายุมากก็ขัดข้อง
จะเป็นยังไงก็ขัดข้อง...จะจนจะรวยอะไรมันก็ขัดข้องอยู่
เพราะยังไม่เห็นโลกอันนี้อยู่ตามความเป็นจริง..
ถ้าเห็นตามความเป็นจริงแล้ว
ปัญหานี้ก็น้อยลงไป มันก็ลดลงไป...

ฉะนั้น จึงให้พวกพุทธบริษัทเราทั้งหลายภาวนา...
การภาวนา การค้นคว้าหาธรรมะอันนี้มันเป็นพุทธศาสตร์
ต้องค่อยๆ เป็นไปตามขั้นตอนของมัน...
เช่นว่าการรักษาศีล..การเจริญสมาธิ..
การทำปัญญาให้เกิดอย่างนี้ เป็นต้น..
มันก็เป็นขั้นตอนของมัน...

การเดินทางเข้าไปสู่ธรรมะ เห็นธรรมะอันนี้...
ถึงแม้ว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ไม่มีในแบบในตำราก็ตามเถอะ..
มันก็ต้องเป็นไปอย่างนั้น...
หนึ่ง...เราละความชั่ว
ความผิดทางกายทางวาจาเราอย่างนี้
มันก็หมดเรื่องไอ้ที่มันจะวุ่นวาย
อาการที่มันจะไม่ค่อยวุ่นวายนั้นมันก็เป็นสมาธิ คือมันมั่น
มันเป็นไปอย่างนั้น เป็นไวพจน์ซึ่งกันและกันอย่างนั้น

เรามีสมาธิ...ความตั้งใจมั่น...
ปัญญามันก็คอยที่จะเกิดขึ้นในที่นั้นเอง...
สิ่งทั้งหลายเหล่านี้มันเป็นมาอยู่อย่างนี้...
ฉะนั้น ท่านจึงว่าให้ภาวนา...
คือทำให้มันเกิดขึ้น ทำให้มันมีขึ้น...

เริ่มต้นโดยมากในทุกวันนี้ก็มานั่งสมาธิกัน
ทำสมาธิกันทำไม....ใจ....ใจมันไม่สงบ
ใจนี่ลักษณะมันเป็นอย่างนั้น แต่เราไม่รู้จักแก้ไขมัน
เกิดมาเป็นต้นเราก็เห็นความไม่สงบของใจ...
ก็คิดอยากจะให้ใจมันสงบ
ไอ้จิตใจมันก็ไม่ค่อยสงบ
มันก็เป็นของมันอยู่อย่างนั้น....ฯ

~พระโพธิญาณเถร (หลวงปู่ชา สุภัทโท)~
ขอนอบน้อมแด่คุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์




เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์