ปฏิบัติถูก มีแต่สุข ทุกข์ไม่มี
สังขารทั้งหลายมันก็เป็นไปตามพระไตรลักษณ์...
มีความเปลี่ยนแปลงเป็นต้น อันนี้ไม่มีใครสามารถจะเถียงได้
แต่ทีนี้ถ้าเราปฏิบัติไม่ถูก ความทุกข์ในธรรมชาตินั้น...
ก็กลายมาเป็นทุกข์ในตัวเรา คนคือเราก็กลายเป็นทุกข์ไป
เพราะว่าปฏิบัติไม่ถูกต่อธรรมชาติ...
แต่ถ้าเราปฏิบัติถูกต้อง..
เราก็ทำให้ทุกข์ที่อยู่ในธรรมชาตินั้นเป็นของธรรมชาติไปตาม
เรื่องของมัน เราไม่พลอยเป็นทุกข์ไปด้วย
นอกจากไม่พลอยเป็นทุกข์แล้ว...
ยังสามารถปฏิบัติให้เกิดความสุขได้ด้วย
ถ้าปฏิบัติต่อทุกข์ถูกต้อง พระพุทธเจ้าตรัสว่า..เราจะเป็นสุข..
...ทุกขํ ปริญฺเญยยํ....
ทุกข์นั้นพระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่าเป็น..ปริญไญย..
คือ เป็นสิ่งสำหรับรู้ รู้ทุกข์ คือรู้เท่าทันทุกข์
เรารู้เท่าทันทุกข์แล้วเราก็ไม่เป็นทุกข์...
การรู้จักทุกข์กับการเป็นทุกข์ นี่คนละอย่าง
พระพุทธเจ้าไม่เคยตรัสให้เราเป็นทุกข์ มีแต่ทรงสอนให้เราเป็นสุข
พระองค์ตรัสบอกว่าทุกข์นั้นสำหรับกำหนดรู้
คือให้เรารู้เท่าทันทุกข์ เพื่อเราจะได้ไม่ต้องเป็นทุกข์เท่านั้นเอง
ถ้าเราปฏิบัติต่อทุกข์ถูกต้อง เราก็เป็นสุข แล้วยิ่งกว่านั้นก็คือ
สามารถทำให้ทุกข์เป็นปัจจัยของความสุขด้วย...
ผู้ที่ปฏิบัติถูกต้อง สามารถทำให้ทุกข์เป็นปัจจัยของความสุข
พระอรหันต์ท่านปฏิบัติต่อทุกข์อย่างถูกต้อง
จนกระทั่งท่านหลุดพ้นจากทุกข์กลายเป็นบุคคลที่มีสุข
โดยสมบูรณ์ทีเดียว....
เพราะฉะนั้น เรื่องทุกข์นี้จึงมีเคล็ดลับอยู่ในตัว คือว่า...
พระพุทธเจ้าตรัสให้เรารู้ทันแล้วก็ปฏิบัติต่อมันให้ถูกต้อง...
เมื่อเราดำเนินชีวิตถูกต้อง คือปฏิบัติต่อทุกข์ถูกต้อง เราก็เป็นสุข
และเราก็มีทุกข์น้อยลงทุกที จนทุกข์หมดไป
จะเหลืออะไร ก็เหลือแต่สุข...ฯ
~พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต) ~
ขอนอบน้อมแด่คุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์