หลวงปู่(มั่น ภูริทัตตะเถระ)ฝากไว้ 1

หลวงปู่(มั่น ภูริทัตตะเถระ)ฝากไว้ 1


บัดนี้...ข้าพเจ้าจักกล่าวซึ่งธรรมขันธ์โดยสังเขป ตามสติปัญญาฯ...
ยังมีท่านคนหนึ่งรักตัวคิดกลัวทุกข์
อยากได้สุขพ้นภัยเที่ยวผายผัน
เขาบอกว่าสุขมีที่ไหนก็อยากไป
แต่เที่ยวหมั่นไปมาอยู่ช้านาน

นิสัยท่านนั้นรักตัวกลัวตายมาก
อยากจะพ้นแท้ๆเรื่องแก่ตาย
วันหนึ่งท่านรู้จริงซึ่งสมุทัยพวกสังขาร
ท่านก็ปะถ้ำสนุกสุขไม่หาย

เปรียบเหมือนดังกายนี้เอง
ชะโงกดูถ้ำสนุกทุกข์คลาย
แสนสบายรู้ตัวเรื่องกลัวนั้นเบา
ดำเนินไปเมินมาอยู่หน้าเขา
จะไปป่าวร้องพวกพ้องเล่า

ก็กลัวเขาเหมาว่าเป็นบ้า
สู้อยู่ผู้เดียวหาเรื่องเครื่องสงบ
เป็นอันจบเรื่องคิดไม่ติดต่อ
ดีกว่าเที่ยวรุ่มร่ามทำสอพลอ
เดี๋ยวถูกยอถูกติเป็นเรื่องเครื่องรำคาญ

ยังมีบุรุษคนหนึ่ง
คิดกลัวตายน้ำใจฝ่อ
มาหาแล้วพูดตรงๆน่าสงสาร
ถามว่าท่านพากเพียรมาก็ช้านาน

เห็นธรรมที่จริงแล้วหรือยังที่ใจหวัง
เอ้ะ!ทำไมจึงรู้ใจฉัน
บุรุษผู้นั้นก็อยากอยู่อาศัย
ท่านว่าดีดีฉันอนุโมทนา

จะพาดูเขาใหญ่ถ้ำสนุกทุกข์ไม่มี
คือ..กายคตาสติภาวนา
ชมเล่นให้เย็นใจหายเดือดร้อน
หนทางจรอริยวงศ์

จะไปหรือไม่ไปฉันไม่เกณฑ์
ไม่หลอกเล่นบอกความให้ตามจริง
แล้วกล่าวปริศนาถ้าให้ตอบ
ปริศนานั้นว่าระวิงคืออะไร?

ตอบว่าวิ่งเร็วคือวิญญาณอาการใจ
เดินเป็นแถวตามแนวกัน
สัญญาตรงไม่สงสัย
ใจอยู่ในวิ่งไปมา

สัญญาเหนี่ยวภายนอกหลอกลวงจิต
ทำให้จิตวุ่นวายเที่ยวส่ายหา
หลอกเป็นธรรมต่างๆอย่างมายา
ถามว่าห้าขันธ์ใครพ้นจนทั้งปวง

แก้ว่าใจซิพ้นอยู่คนเดียว
ไม่เกาะเกี่ยวพัวพันติดสิ้นพิศวง
หมดที่หลงอยู่เดียวดวง
สัญญาทะลวงไม่ได้หมายหลงตามไป

ถามว่าที่ตายใครเขาตายที่ไหนกัน
แก้ว่าสังขารเขาตายทำลายผล
ถามว่าสิ่งใดก่อให้ต่อวน
แก้ว่ากลสัญญาพาให้เวียน

เชื่อสัญญาจึงผิดคิดยินดี
ออกจากภพนี้ไปภพนั้นเที่ยวหันเหียน
เลยลืมจิตจำปิดสนิทเนียน
ถึงจะเพียรหาธรรมก็ไม่เห็น

ถามว่าใครกำหนดใครหมายเป็นธรรม
แก้ว่าใจกำหนดใจหมาย
เรื่องหาเจ้าสัญญานั้นเอง
คือว่าดีว่าชั่วผลักจิตติดรักชัง

ถามว่ากินหนเดียวเที่ยวไม่กิน
แก้ว่าสิ้นอยากดูไม่รู้หวัง
ในเรื่องเห็นต่อไปหายรุงรัง
ใจก็นั่งแท่นนิ่งทิ้งอาลัย

ถามว่าสระเหลี่ยมเปี่ยมด้วยน้ำ
แก้ว่าธรรมสิ้นอยากจากสงสัย
ใสสะอาดหมดราคีไม่มีภัย
สัญญาในนั้นพรากสังขารขันธ์นั้นไม่ถอน

ใจจึงเปี่ยมเต็มที่ไม่มีพร่อง
เงียบสงัดดวงจิตไม่คิดตรอง
เป็นของควรชมชื่นทุกคืนวัน
แม้ได้สมบัติทิพย์สักสิบแสน
หาแม้นเหมือนรู้จริงทิ้งสังขาร

หมดความอยากเป็นยิ่งสิ่งสำคัญ
จำส่วนจำกั้นอยู่ไม่ก้ำเกิน
ใจไม่เพลินทั้งสิ้นหายดิ้นรน
เหมือนอย่างว่ากระจกส่องหน้า

ส่องแล้วอย่าคิดติดสัญญา
เพราะว่าสัญญานั้นดังเงา
อย่าได้เมาไปตามเรื่องเครื่องสังขาร
ใจขยันจับใจที่ไม่ปน
ไหวส่วนตนรู้แน่เพราะแปรไป...ฯ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์