สุนัขดำ-สุนัขขาว
อภิตฺถเรถ กลฺยาเณ ปาปา จิตฺตํ นิวารเย
ทนฺธํ หิ กรโต ปุญฺญํ ปาปสฺมึ รมตี มโน ฯ ขุ. ธ. ๒๕/๑๙/๓๐
พึงรีบทำความดี ห้ามจิตจากความชั่ว
เพราะเมื่อทำบุญช้าไป ใจย่อมยินดีในบาป
บุญคุณงามความดีเริ่มที่จิต. หากเกิดคิดจะทำอย่าหวั่นไหว
รีบขวนขวายขณะนั้นในทันใด ก่อนจิตใจเดียจฉันท์เปลี่ยนผันแปร
เมื่อทำบุญล่วงกาลเนิ่นนานนัก. จิตก็จักตกต่ำเดี๋ยวย่ำแย่
ยินดีในบาปเชียวเลิกเหลียวแล. ยากจะแก้กลับลำมาทำดี ฯ
ภายในใจของมนุษย์เป็นประหนึ่งสนามชิงชัย ระหว่างกุศจิตกับอกุศลจิต ซึ่งสู้
รบกันอยู่เสมอ ทว่าชัยชนะมักตกเป็นของฝ่ายของอกุศลจิตมากกว่าฝ่ายกุศลจิต
ทั้งนี้ เพราะจิตมนุษย์โน้มเอียงไปในทางอกุศลได้ง่าย (คิดร้ายมากกว่าคิดดี)
โดยเฉพาะคนที่สั่งสมบาปอกุศลไว้มาก ยากที่กุศลจิตจะเกิดขึ้น แม้เรื่องดีก็คิด
เป็นเรื่องร้าย มองในแง่ลบ...
ดูสิ ภายในบ้านของเราเลี้ยงสุนัขดำไว้หลายตัวนับเป็นสิบๆ เลี้ยงสุนัขขาวไว้
เพียงแค่สองสามตัว เปิดประตูบ้านทีไร สุนัขดำก็กระโดดออกก่อนทุกที มิหนำ
ซ้ำปล่อยให้มันเที่ยวไปเห่าไล่กัดคนอื่น...'โฮ่งแฮ่!'...นานทีปีหนสุนัขขาวหลุด
ออกมาถือว่าน่าอัสจรรย์...
จะเป็นใครก็ตามขณะที่จิตเกิดกุศลหรือกอปรด้วยกุศลต้องถือเป็น'โอกาสทอง'
ที่ไม่ควรปล่อยให้ผ่านไปเฉยๆ เมื่อโอกาสทองมาถึงก็อย่าทำเป็นทองไม่รู้ร้อน
หยุด'ดื่มชาเย็น'...รีบขวนขวายทำคุณงามความดีทันที มิฉะนั้นอกุศลจิตจะได้
ช่องแทรกเข้าขัดขวาง เหนี่ยวรั้ง เกิดความลังเล ศรัทธาแรงกล้าก็ค่อยๆลด
ความแรงลง เดิมที่คิดจะทำมากก็คิดทำน้อยและที่คิดจะทำน้อยก็ไม่ทำเลย
ซ้ำร้ายกลับคิดไปทางอกุศล....
"น้ำขึ้นไม่รีบตัก มาตักขณะน้ำงวดลงแล้ว คงได้แต่น้ำขุ่น มิได้น้ำใส
ยิ่งแย่กว่านั้นคือได้โคลนตม กลับบ้านไป"....
หมายเหตุ** เพลาๆบ้างเด้อ อย่าให้ถึงกลับปล่อยสายพันธุ์ 'ร็อตไวเลอร์'..
สุนัข..'เขี้ยวพิฆาต' ออกมา...ฯ
~พระมหาอุเทน ปัญญาปริทัตต์~
ขอนอบน้อมแด่คุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์