ปัญญาอบรมใจ (หลวงพ่อทูล ขิปฺปปญฺโญ)
ฉะนั้น การทำสมาธิจึงเป็นเพียงได้กำลังใจมาเสริมปัญญา ให้เกิดความรู้เห็นตามความเป็นจริง มีความเข้าใจในเหตุผลให้ชัดเจนมากขึ้น เรียกว่า ทำสมาธิเพื่อเสริมสร้างพลังงานทางใจให้มีกำลัง
เมื่อใจมีพลังจากความสงบที่เกิดขึ้นจากสมาธิ ก็จะนำเอาพลังใจนี้ไปประกอบกับสติปัญญา เมื่อพิจารณาในสิ่งใด ก็จะเกิดความเข้าใจได้อย่างแจ่มแจ้งชัดเจน
ที่เรียกว่า “โยนิโสมนสิการ” การพิจารณในสิ่งใด การวิจัยวิเคราะห์ วิจารณ์ ในสิ่งใด ก็จะเกิดความเข้าใจได้อย่างถูกต้องแยบคาย จะหายสงสัยในสิ่งที่เกิดความลังเลใจไปได้ทั้งหมด
หลักการใช้ปัญญาพิจารณานี้ต้องฝึกมาก่อน ฝึกความคิด ฝึกปัญญา ตามเวลาปกติ จนเกิดความเคยชินในการใช้ปัญญาพิจารณาในสัจธรรมนั้นๆ
เมื่อปัญญาเราฝึกไว้ดีแล้ว จึงทำสมาธิเพื่อให้เกิดพลัง แล้วเอาพลังที่เกิดขึ้นจากสมาธิไปเสริมสติปัญญาที่ฝึกดีแล้วอีกครั้งหนึ่ง เป็นไปในลักษณะปัญญาหนุนสมาธิหรือสมาธิหนุนปัญญา ทั้งสมาธิ ทั้งปัญญา จะหนุนกันไปหนุนกันมา ทั้งสองฝ่ายจะเป็นพลังให้แก่กันและกันจนเกิดศรัทธาพลัง วิริยพลัง สติพลัง สมาธิพลัง และปัญญาพลัง
การภาวนาปฏิบัติก็จะก้าวหน้าต่อไปได้ดี มีแต่เจริญในการปฏิบัติยิ่งๆ ขึ้นไป ยิ่งมีสติปัญญาละเอียดมากเท่าไร ใจก็ยิ่งเกิดความรู้เห็นในหลักสัจธรรมละเอียดมากขึ้นเท่านั้น
ปัญญาอบรมใจ
โดย พระอาจารย์ทูล ขิปปปญโญ