เมตตาเปรียบเหมือนน้ำ
พึงเห็นความสำคัญของความคิด ซึ่งเปรียบดังดาบสองคม จึงต้องระวังให้เต็มที่เกี่ยวกับการใช้ความคิด ฉลาดก็ใช้ให้สบายใจ ไม่ฉลาดจะใช้ไม่สบายใจ
ท่านสอนให้แผ่เมตตา แต่การจะเผื่อแผ่แจกจ่ายอะไรได้ จำเป็นต้องมีอะไรนั้นเป็นสมบัติของตนเองเสียก่อน ไม่เช่นนั้นก็จะไม่มีอะไรแจก แจกของที่ไม่มีเป็นไปได้อย่างไร เป็นไปไม่ได้แน่นอน
แจกเมตตาคือแผ่เมตตาก็เช่นเดียวกัน ต้องเป็นผู้มีเมตตาจึงจะให้เมตตาแก่ผู้อื่นได้ การอบรมเมตตาให้เกิดเป็นสมบัติของตนจึงจำเป็นสำหรับผู้ปรารถนาจะแผ่เมตตาแก่มนุษย์สัตว์ทั่วไป เมตตานั้นก็เช่นเดียวกับน้ำ ภาชนะใดไม่มีน้ำภาชนะนั้นก็แห้งอยู่แล้ว จะไปทำให้บริเวณนอกภาชนะเปียกเย็นย่อมเป็นไปไม่ได้ แต่น้ำมีเต็มเปี่ยมภาชนะใด ทั้งยังมีเพิ่มในภาชนะนั้นไม่รู้หยุด น้ำย่อมท่วมล้นไหลรินออกจากภาชนะเอง ซึมซาบลงสู่พื้นสู่ดินได้โดยไม่ต้องมีผู้ราดรด
เมตตาก็เช่นกันมีขึ้นในจิตใจใด ก่อนอื่นย่อมทำให้จิตใจนั้นไม่แห้งผาก แต่ย่อมชุ่มเย็น และเมื่อมีมาก ก็จะท่วมท้นจิตใจ และไหลรินไปสู่ผู้คนและสรรพสัตว์ได้เองโดยมิต้องตั้งความมุ่งมาดปรารถนา จักเป็นไปเอง ไม่แตกต่างกับน้ำที่ท่วมภาชนะแล้วก็ย่อมไหลออกทำความชุ่มชื่นให้เกิดทั่วได้เองฉะนั้น