มืดทางชั่ว สว่างทางดี
มืดทางชั่ว สว่างทางดี
แต่เราท่านทั้งหลายโปรดพิจารณา ในวันเดือนดับลับแล
และข้างขึ้นเดือนหงาย ข้างแรมเดือนมืด โปรดตีความว่า...
ให้มันมืดตรงไหน? ให้มันสว่างตรงไหน?
ให้มันมืดทางชั่ว...ให้สว่างทางดี จะได้มีปัญญา
เราจะได้แก้ปัญหาชีวิตอันแน่นอนและถูกต้อง
พฤติกรรมกับการสร้างความดี
อย่าทำสับสนเลยพี่น้องที่รัก...ชีวิตสับสนเหมือนพระอาทิตย์ พระจันทร์
ผลัดกันลง ผลัดกันขึ้น เดี๋ยวก็คืน เดี๋ยวก็วัน
แล้วเราก็หมดวันไป แล้ววันนี้ก็หมดไปอีกแล้ว
เสียดายเวลาเหลือเกินว่า...เวลาที่ผ่านมานี่ชั่วโมง
ตั้งแต่เช้ามา เราทำความดีอะไรกันบ้าง?
ชีวิตนี้คือความดี หรือความชั่วประการใด?
ตั้งแต่เช้ามาจนบัดนี้ ยุคปัจจุบันนี้ เราคิดอะไรไปบ้าง?
แก้ไขอะไรไปบ้าง? จะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมอะไรบ้าง?
และเป็นประโยชน์ต่อบุตรธิดาประการใด?
จะเป็นประโยชน์ต่อคุณบิดรมารดา ปู่ย่าตายาย ครูบาอาจารย์อย่างไร?
จะเป็นประโยชน์ต่อกับพื้นที่ดิน ที่เราอาศัยอยู่ทำมาหากินอะไรบ้าง?
จะมีประโยชน์แก่แม่พระคงคา แก่แม่พระพายประการใด?
กรรมฐานเปลี่ยนพฤติกรรมได้แน่นอน
ฉะนั้น ผู้มาเจริญกรรมฐานจึงเปลี่ยนพฤติกรรมได้
กรรมฐานเปลี่ยนพฤติกรรมได้แน่นอน
แต่ท่านที่จะมาเปลี่ยนทางไหนรีบจัดการด่วน
ถ้าท่านปฏิบัติโดยตั้งใจปฏิบัติแล้วท่านสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมได้ในปัจจุบัน
เพราะอดีตที่ผ่านมานั้นเป็นความฝันเหลือเกิน
จึงได้แต่เขียนกฎบทความนี้ว่า เรื่องเก่าอย่ารื้อฟื้น เรื่องอื่นอย่าคิดอีก
จริงไหมท่านทั้งหลาย?...ได้ฟังกันมาทุกวันพระไปไหน
“ปากอย่าไว ใจอย่าเบา เรื่องเก่าอย่ารื้อฟื้น”
ทำดีต้องมีมาร
เรื่องอื่นสิ่งที่ชอบทำ...ไม่ไปทำ ไปทำสิ่งที่ไม่ควรจะทำ
ซ้ำร้ายสร้างเติมเสริมส่งขณะทำ
เหมือนอย่างเราไปทำ ความชั่ว...มันหวานเหลือเกิน
น่ากินน่าใช้ แต่มันยังไม่ซึมซาบเข้ามาถึงภายใน จึงเป็นพิษเป็นภัย
ความดีมันขื่นขมเหลือเกิน มีอุปสรรคขัดขวางตลอดรายการ
ความดีไม่มีคนอยากจะกิน ไม่มีคนอยากจะทำเหมือนโบราณว่าเอาไว้
ขมเป็นยา
...หวานเป็นลม ขมเป็นยา...ไม่มีใครอยากกิน
มันขมมันขื่น ความดีมันก็ขื่นอย่างนี้
ทุกคนจึงไม่สนใจจะสร้างความดี เปลี่ยนพฤติกรรมไปในทางดี
จึงสร้างแต่ความไม่ดีเป็นขนมหวานย้อมใจเรา
ให้หลั่งไหลไปอยู่ที่ต่ำ จิตใจที่เลวร้ายในสังคมต่อไป เขาจึงเปลี่ยนพฤติกรรมไม่ได้
คัดลอกบางส่วนจาก...ทำดีต้องมีมาร