ขอเพียงแค่มีศีล
.....ถ้าเรามีศีลห้าครบถ้วน ด้วยความบริสุทธิ์...'รักษาใจไว้ว่า
จะไม่ละเมิดเลย' โดยสำรวมควบคุมที่ใจเราก่อน แม้แต่จะคิดทำ
ผิดเพียงนิดเดียวก็ไม่คิด ถ้าเป็นได้อย่างนี้ จะเป็นเบื้องต้นแห่งบุญ
กุศลที่ใหญ่หลวงทั้งปวง และจะส่งผลดีให้แก่ตัวเราเองและคนรอบ
ข้าง ตั้งแต่ปัจจุบันไปจนถึงอนาคต อย่างไรบ้าง ??
.....'ขอเพียงแค่มีศีล' พระพุทธองค์ทรงสอนว่า ผู้มีศีลจะมีอานิสงส์
ถึงห้าประการคือ...มีโภคทรัพย์มากมาย สองคือ มีกิตติศัพท์ช่ือเสียง
ดีงาม สามคือ ไปที่ใดได้รับเกียรติ ไม่เก้อเขิน ประการที่สี่ เมื่อถึง
คราวตาย จะไม่หลงและมีสติ และสุดท้ายคือ เมื่อตายไปย่อมเข้าสู่
สุคติโลกสวรรค์ ((สีลสูตร ๒๒/๒๑๓))
.....แม้จะทำทานมากมายเพียงไรก็สู้มีศีลไม่ได้ พระพุทธองค์ทรงสอน
ว่า แม้ว่าเราจะให้ทานด้วยทองคำ ๘๔,๐๐๐ ถาด ช้าง ๘๔,๐๐๐ เชือก
ให้รถ ๘๔,๐๐๐ คัน ให้แม่โคนม ๘๔,๐๐๐ ตัว หรือ แม้แต่เราให้ทานแก่
พระปัจเจกพุทธเจ้าร้อยรูป หรือให้ทานแก่ พระพุทธองค์เองพร้อมด้วย
พระสาวก หรือแม้แต่การสร้างวิหาร จะใหญ่โตเพียงไร ทั้งหมดนี้สู้การ
รักษาศีลไม่ได้เลย ((เวลามสูตร ๒๓/๒๒๔ ))
.....ขอเพียงแค่มีศีล พระพุทธองค์ทรงรับรองว่า เมื่อให้ทานแก่พระสงฆ์
แล้วปรารถนาสวรรค์ชั้นใดก็ตาม จะสำเร็จได้ไม่ยาก ไม่ว่าจะเป็นสวรรค์
ชั้นต้น จาตุมหาราชิกา ดาวดึงส์ ยามา ดุสิต นิมานรดี จนถึงสวรรค์ชั้น
ปรนิมมิตวสวัตดี ทรงตรัสว่า...'ความตั้งใจของผู้มีศีลย่อมสำเร็จได้ เพราะ
เป็นของบริสุทธิ์' ((สังคีติสูตร))
.....ขอเพียงแค่มีศีล ถ้ามีศีลบริสุทธิ์อย่างยิ่งแล้ว ชาติหน้าไม่ว่าจะปรารถนา
เป็นเทวดาหรือเป็นพระเจ้าจักพรรดิ ก็จะเป็นได้ไม่ยาก ดังคำที่มีกล่าวไว้ของ
พระเถระรูปหนึ่งมีบันทึกไว้ในพระไตรปิฎกว่า...ท่านเพียงแต่มีศีลห้าบริสุทธิ์
เท่านั้น ท่านได้เป็นจอมเทวดาในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ๓๐ ครั้ง ได้เป็นพระเจ้า
จักรพรรดิ ๗๕ ครั้ง ได้เป็นพระเจ้าแผ่นดินในประเทศราชอันไพบูลย์มากมาย
เหลือคณานับ จากนั้นท่านได้เกิดในสกุลพราหมณ์ และได้ฟังธรรม เมื่ออายุ
เพียง ๕ ปีเท่านั้น ท่านก็ได้ บรรลุธรรม เป็นพระอรหันต์ ((เบญจศีลสมาทาน
นิยเถราปทานที่ ๔ ๑๒/๒๖))
.....ขอเพียงแค่มีศีล เพียงเจริญสติ จะมีแต่ความเจริญแห่งธรรม ไม่มีความ
เสื่อมเลย ((ภิกขุสูตร ๑๙/๖๘๙))
.....ขอเพียงแค่มีศีล ถ้ามีศีลแล้ว แม้เราจะไม่เคยฝึกสมาธิ หรือฝึกเจริญสติ
ใดๆมาก่อน แต่ถ้าได้มีโอกาสฟังพระธรรมเทศนาและตั้งใจฟังก็สามารถบรรลุ
ธรรมชั้นสูง เป็นพระอริยบุคคลหรือแม้แต่บรรลุธรรมสูงสุดเป็นพระอรหันต์ได้
((รุกขสูตร ๑๙/๕๐๐))
.....นี้จึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมประชาชนจำนวนมากในสมัยพุทธกาล แม้ไม่ได้
มีประวัติว่าเคยฝึกสมาธิ เจริญสติ เดินจงกลมอะไรมาก่อนเลย แต่เมื่อได้รับ
ศีล ฟังธรรม ตั้งใจสมาทานศีล และใส่ใจในธรรม ก็เข้าถึงความเป็นอริยบุคคล
ระดับต่างๆได้เป็นจำนวนมาก และนี้จึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมการรักษาศีล จึง
เป็นเลิศกว่าการให้ทานทั้งปวง...ฯ
~น.ท. น.พ. จักรพงศ์ ไพบูลย์~
ขอนอบน้อมแด่คุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์...ฯ