เมื่อเราไม่หลงอารมณ์ เราก็ไม่หลงโลก
นี้เมื่อมันเป็นอย่างนั้น เราก็ไม่ไปยึดมั่นในอารมณ์ทั้งหลาย
เพราะว่ามันไม่แน่ เคยเห็นไหมดูสิ นาฬิกาเรือนนี้ แหมสวยเหลือเกิน
ซื้อมาเถอะ ไม่กี่วันก็เบื่อมันแล้ว ไม่กี่เดือนก็เบื่อมันแล้ว...
เสื้อตัวนี้ซื้อมา ชอบมันเหลือเกิน ก็เอามาใส ไม่กี่วันทิ้งมันเสียแล้ว
มันเป็นอยู่อย่างนี้ มันแน่ที่ตรงไหนล่ะ นี่ถ้าเห็นมันไม่แน่ทุกสิ่งทุกอย่าง
ราคามันก็น้อยลง อารมณ์ทั้งหลายนั้น เป็นอารมณ์ที่ไม่มีราคาแล้ว
ของที่ไม่มีราคาแล้วเราจะเอาไปทำไม เก็บมันไว้ก็เหมือนผ้าเราขาด
ก็เอามาเช็ดหม้อข้าว เอามาเช็ดเท้าเท่านั้น...เห็นอารมณ์ทั้งหลายมัน
ก็สม่ำเสมอกันอย่างนั้น เมื่อเราเห็นอารมณ์ทุกอย่างเป็นเช่นนั้น
เราก็เห็นโลก โลกนั้นคืออารมณ์...อารมณ์นั้นก็คือโลก เราไม่หลงอารมณ์
ก็ไม่หลงโลก...ไม่หลงโลกเราก็ไม่หลงอารมณ์ เมื่อจิตเป็นเช่นนี้ จิตก็มี
ที่อาศัย จิตก็มีรากฐาน จิตก็มีปัญญาหนาแน่น แก้ปัญหาได้ทุกประการ
เมื่อปัญหามันหมดไป...ความสงสัยมันก็หมดไป อย่างนี้ความสงบ
มันก็ขึ้นมาแทน อันนี้เรียกว่าการปฏิบัติ...ถ้าปฏิบัติกันจริงๆ ก็ต้องเป็น
อย่างนั้น.....
: พระโพธิญาณเถร
(หลวงพ่อชา สุภัทโท)