ขันธ์ห้าเป็นที่ตั้งของความเห็นแก่ตัว

ขันธ์ห้าเป็นที่ตั้งของความเห็นแก่ตัว


เอ้า...แล้วทีนี้เราก็ต้องรู้ต่อไปว่า...อะไรเป็นที่ตั้งของความเห็นแก่ตัว
อะไรเป็นที่ตั้งแห่งความเห็นแก่ตัว ทำให้เกิดความรู้สึกว่าตัว?
พระพุทธเจ้าได้ตรัสเรื่องนี้ไว้ว่า...คือขันธ์ห้า รูป เวทนา สัญญา
สังขาร วิญญาณ นั่นแหละ, พอเข้าใจผิดกับมันแล้ว ก็จะเกิดความ
เห็นแก่ตัวในสิ่งทั้งห้านั้น ฉะนั้น...เรื่องขันธ์ห้านี้จะต้องศึกษาให้
แจ่มแจ้ง มองเห็นว่ามันเป็นที่ตั้ง แห่งความเห็นแก่ตัวได้อย่างไร,
แล้วก็รู้จักถอนความเห็นแก่ตัว ออกมาเสียจากขันธ์ห้า โดยวิธีการ
ปฏิบัติที่ถูกต้องตามกฏของอิทัปปัจจยตา หรือ ปฏิจจสมุปบาท
แต่ว่าเรื่องขันธ์ห้าก็ดี, เรื่องปฏิจจสมุปบาทก็ดี, เป็นเรื่องลึกซึ้ง
กว้างขวางยืดยาว จึงจะต้องเก็บไว้พูดกันเป็นครั้งอื่น ในครั้งอื่น
สำหรับเรื่องนั้นโดยเฉพาะ

ทีนี้ก็จะบอกแต่เพียงว่า...ขันธ์ห้านั่นแหละมันเป็นฐานที่ตั้งที่ความ
เห็นแก่ตัว มันจะไปเกาะไปยึดเอารูปคือร่างกาย จิตโง่มันก็ไปยึด
เอาเป็นตัว, เอาร่างกายเป็นตัว; แม้ในสิ่งที่ไม่มีชีวิตจิตใจ เช่นถ้วย
เช่นชาม เช่นหม้อ เช่นไห มันยังฟาดแตกกระจายด้วยความโกรธ
ว่าไม่ได้ดั่งใจ ด้วยความเห็นแก่ตัว

เด็กๆเดินมาชนเสา, ก็เตะเสาว่าเสานี้เป็นศัตรูของกู ที่จริงมันก็ไม่มี
ตัวของเสา แล้วมันก็มีความโง่เห็นตัวตนขึ้นมา ถึงคนโตๆนี้แหละ
ก็คิดดูให้ดี สังเกตุดูให้ดี ถ้ามีดมันบาดมือ คนโง่ก็จะถือว่ามีดบาดกู,
หนามมันตำที่เท้า คนโง่ก็ว่าหนามตำกู, ก็อย่างนี้เรียกว่า...เอารูปขันธ์
เป็นตัวตน

หรือว่าตามันเห็นรูป ก็กูเห็นรูปไม่ใช่ตาเห็นรูป, หูได้ยินเสียง ก็กูได้
ยินเสียง, จมูกได้กลิ่นก็กูนั้นได้กลิ่น, ลิ้นได้รสก็กูได้รส, ได้สัมผัสผิว
หนัง นิ่มนวลกูก็ได้สัมผัสผิวหนัง. นี่ เอารูปขันธ์ทั้งหลายเหล่านี้ ที่เป็น
ภายในบ้าง เป็นภายนอกบ้าง เป็นตัวกู เป็นของกู

ทีนี้ถ้ามีเวทนาเป็นสุขทุกข์ ไม่สุขไม่ทุกข์ ก็ว่ากูเป็นผู้เวทนา ไม่ใช่
จิตรู้สึกตามการปรุงแต่งของอิทัปปัจจยตา, เกิดความรู้สึกที่เรียก
สมมุติว่าสุขหรือทุกข์เป็นต้น, มันกลายเป็นกูผู้รู้สึกสุข รู้สึกทุกข์
รู้สึกไม่สุขไม่ทุกข์

นี้ถ้าจิตมันสำคัญมั่นหมาย เอาอะไรว่าเป็นอะไร หรือจำสิ่งใดได้
สำคัญว่าเป็นอะไร, สำคัญว่าเป็นหญิง, สำคัญว่าเป็นชาย, สำคัญ
ว่าได้ว่าเสีย, ว่าแพ้ว่าชนะ, สำคัญมั่นหมายอย่างนี้, มันเป็นอาการ
ของจิตที่โง่ ก็ยังเอามาเป็นตัวกู เป็นของกู : กูสำคัญมั่นหมาย,
กูมีสำคัญมั่นหมาย

ถ้าสังขารขันธ์มันเกิดคิดนึกอะไรได้, แทนที่จะรู้ว่าเป็นการปรุง
แต่งตามธรรมดาอย่างนั้นเอง, มันก็คิดว่ากูคิดได้

นี้ถ้าว่า วิญญาณรู้แจ้ง ก็กูรู้เเจ้ง ไม่ยกให้เป็นหน้าที่ของวิญญาณ
ตามธรรมชาติ, เป็นกูรู้แจ้งทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ

เอาล่ะ เป็นอันว่า...ถ้ามันโง่แล้วก็เอาขันธ์ทั้งห้านี้เป็นตัวตนเสมอ
เป็นสิ่งที่เราจะต้องพูดกันคราวอื่นให้ละเอียด ให้ชัดเจน, แล้วจะ
ต้องควบคุมมันได้ด้วยการปฏิบัติถูกต้องตามกฏของปฏิจจสมุปบาท
แล้วมันก็จะไม่เกิดตัวกู, รู้เค้าๆไว้อย่างนี้ก่อนเพื่อว่า หมดการเห็น
แก่ตัวมันจะได้หมดทุกข์...ฯ

~ธรรมเทศนา ท่านพุทธทาสภิกขุ~
ขอนอบน้อมแด่คุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์