วิธีมีศีล
ทั่วไปรักษาศีลด้วยการข่มใจไม่ให้ทำชั่ว แต่นักปฏิบัติควรรักษาศีลด้วยสติปัญญา คือ เมื่อตาเห็นรูป หูได้ยินเสียง จมูกได้กลิ่น ลิ้นได้รส กายกระทบสัมผัส หรือใจรู้ธัมมารมณ์ต่าง ๆ หากจิตเกิดความยินดีพอใจก็รู้ทัน หากจิตเกิดความยินร้ายไม่พอใจก็รู้ทัน และ หากจิตเฉยอยู่ก็รู้ทัน การรู้ทันนี้แหละเป็นงานของสติ เมื่อรู้ทันแล้ว อกุศลที่ยังไม่เกิดจะไม่เกิด อกุศลที่เกิดอยู่แล้วจะดับไป กุศลที่ยังไม่เกิดจะเกิด กุศลที่เกิดแล้วก็จะเกิดง่ายยิ่งขึ้น และ จะดียิ่งขึ้นไปอีกหากความรู้ทันสภาวธรรมที่เกิดขึ้นนั้นจะประกอบไปด้วยความรู้จริง หรือ ความเข้าใจด้วย คือ รู้ว่าความยินดีพอใจ หรือ ความยินร้ายไม่พอใจ ตลอดจนความเฉยๆ นั้น เป็นสิ่งที่ไม่เที่ยง หรือ เป็นสิ่งแปลกปลอม หรือ เป็นสิ่งที่จิตปรุงแต่งขึ้นมาเป็นคราว ๆ ห้ามก็ไม่ได้ บังคับก็ไม่ได้ เกิดขึ้นแล้วตั้งอยู่ชั่วขณะก็ดับไป การรู้ความจริงนั้นแหละเป็นงานของปัญญา
สรุปแล้ว การรักษาศีลด้วยการข่มใจทำให้จิตสงบจากกิเลสชั่วคราว แต่การรักษาศีลด้วยสติปัญญาเป็นการเจริญวิปัสสนาไปในตัว จะทำให้จิตพ้นกิเลสถาวรในอนาคตได้