
ภาวะความจริงของกายทิพย์

กายทิพย์จิตวิญญาณเป็นรูปขันธ์ในลักษณะนามธรรม เพราะมีสภาพลักษณะคล้ายอากาศที่โป่งแสง ซึ่งไม่อาจจับต้องได้และตาเนื้อก็มองเห็นได้ยาก
เราจะรู้ว่านี่คือ “ อากาศ ” ต่อเมื่ออากาศเคลื่อนตัวเป็นลมสัมผัสกับกายแต่จะมองเห็นหรือรู้เรื่องวิญญาณก็ต้องอาศัยจากกระแสอำนาจจิตที่บำเพ็ญจนถึงจตุตถฌานก็จะสามารถสัมผัสได้รู้เห็นเองเข้าใจถึงสภาวะธรรมชาติของโลกวิญญาณซึ่งเป็นสภาพที่รู้เฉพาะตัว
จิตวิญญาณจากโลกวิญญาณที่ต้องมาเกิดนั้น ไม่ว่าจะเป็นพรหม เทพ ยม หรือ ผีเปรต อสูรกายล้วนมีกรรมวิบากของตนเป็นที่ตั้ง มีกรรมของตนเป็นเผ่าพันธุ์ปรุงแต่งให้เมื่อเกิดแล้วมีหน้าตาดี หรือรูปอัปลักษณ์รุ่งเรืองหรืออับจน
จิตวิญญาณโดยทั่วไปเป็นสภาพกายทิพย์ที่สามารถขยายตัวให้ใหญ่หรือหดลงให้เล็กได้ เมื่อมาเกิดนั้น ก็จะหดตัวให้เล็กเข้าปฏิสนธิผสมรวมตัวกับเซลตัวอ่อนในครรภ์มารดาและจะวิวัฒนาการขึ้นเกาะที่ต่อม “ เมดูลล่า ” ซึ่งเป็นก้านสมอง มีลักษณะเป็นรูปปิระมิด เป็นที่ตั้งต้นของเส้นประสาทที่แยกจากสมอง ต่อมนี้มีศูนย์ต่างๆตั้งอยู่ได้แก่ ศูนย์ควบคุมการหายใจ การเต้นของหัวใจ การหดขยายของหลอดโลหิต คุมการจาม ไอ อาเจียน การขับนํ้าย่อยของระบบย่อยอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อมนี้มีหน้าที่รับความรู้สึกถ่ายทอดไปยังสมองใหญ่ ต่อมนี้ตั้งอยู่เหนือบริเวณท้ายทอย และเป็นส่วนหนึ่งของสมอง
ในขณะเดียวกัน ต่อม “ เมดูลล่า ” จะเป็นจุดศูนย์รวมของกายทิพย์ที่จะผสมกับจิตวิญญาณที่หน้าผากแล้วแยกออกจากกายเนื้อ เมื่อครั้งฝึกการถอดจิต
และที่ต่อมนี้เป็นตำแหน่งที่จะเกิดความรู้สึกรับรู้ในเวลาจิตสัมผัสกับเรื่องทิพย์ แล้วส่งไปปรุงแต่งแปลเป็นความหมายที่สมองใหญ่อีกที
กายทิพย์เมื่อมาเกิดแล้วจะถูกวัตถุธาตุ ซึ่งเป็นปฏิกูลปรุงแต่งให้ยึดติดอยู่กับกายเนื้อ เกิดเป็นสภาพกายทิพย์ที่หยาบ
เมื่อฝึกถอดกายทิพย์ออกมาได้แล้ว จะมีสายใยแห่งชีวิตเชื่อมโยงกับกายเนื้อ
กายทิพย์เมื่อถอดออกมาใหม่ๆ นั้น จะโปร่งแสงฝึกต่อไปอีก กายทิพย์จึงจะค่อยๆทึบแสง เห็นเหมือนกายเนื้อมากขึ้นเรียกว่ากายหยาบ และเมื่อนำกายหยาบนั้นมาเข้าปลงอสุภะด้วยการถอดจิตครั้งแล้วครั้งเล่า ก็จะละลายกิเลสกายในกายได้ ทำให้กายหยาบลอกคราบออกไปเป็นชั้นๆ ละเอียดขึ้นๆตามลำดับ เมื่อตายลงเมื่อใด กายทิพย์อันละเอียดก็จะแยกออกจากกายเนื้อไปเกิดเป็นเทพพรหม ซึ่งเป็นรูปแห่งความหมาย
สำหรับคนที่ไม่ได้ฝึกถอดจิตละลายกิเลสแล้วกายทิพย์ก็หยาบต้องไปเกิดเป็นเทวดาชั้นตํ่า หรือว่าเป็นผีเปรต อสูรกาย ตามกรรมวิบากของตนที่สร้างมา
กายทิพย์ของเทพ พรหม หรือ ผี เปรต อสูรกาย เวลาจะปรากฏให้คนเห็นได้ด้วยตาเนื้อนั้น ต้องอาศัยการรวบรวมพลังจิต ให้ดำรงภาวะจิตขณะนั้นเป็นหนึ่ง อย่างแนบแน่นแน่นิ่งเพิ่มพลังให้กับกายทิพย์ จนสามารถเปล่งเป็นภาพที่เห็นได้ด้วยตาเนื้อ ที่คนทั่วไปที่เห็นแล้วบอกว่า “ ถูกผีหลอก ”
กายทิพย์คนเรานั้น เมื่อตายลง กายทิพย์จะแยกกับร่างออกไปเกิดใช้กรรมตามวาระวิบากกรรมของตนที่สร้างมา ไม่ว่ากรรมดีหรือกรรมชั่ว ไม่มีวันสิ้นสุด หรือหยุด ต่อเมื่อเข้าสู่แดนนิพพานเท่านั้น จึงไม่ต้องมาเกิดอีกที่
เพื่อพิสูจน์เรื่องวิญญาณมีจริง นำไปสู่การเชื่อเรื่องกฎแห่งกรรม โลกวิญญาณ ตายแล้วไม่สูญ
จึงขอเสนอบทต่อไปนี้ ด้วยการฝึกถอดจิต ซึ่งเขียนบรรยายหลายแบบไว้ในนี้เพื่อไว้ให้ศึกษาเผื่อว่าเหตุการณ์นั้นอาจจะเกิดขึ้นกับท่าน ท่านจะได้รู้วิธีป้องกันอันตรายได้
จำไว้ว่า
“ ความมั่นใจรวมเป็นหนึ่งในเอกะพาท่านรอดจากอันตรายได้”
ข้อห้ามในระหว่างการนั่งฝึกถอดจิต
1. จะต้องฝึกในห้องที่ไม่มีใครรบกวน โดยปิดประกาศไว้หน้าห้องว่า ห้ามรบกวน ห้ามเรียก ห้ามปลุก จนกว่าจะถึงเวลาที่จะกำหนดออกจากสมาธิ
ถ้ามีความจำเป็นต้องปลุกแล้ว ห้ามแตะต้องร่างอย่างเด็ดขาด และห้ามตะโกนเรียก เพราะเมื่อแตะต้องร่างทันที ทำให้ตกใจ หนักๆอาจจะทำให้เสียสติได้(ต้องรักษาด้วยการปรับจิต หนักหน่อยก็รักษาด้วยวิธีพอกกายทิพย์)
เหตุที่จะเป็นเช่นนี้ เพราะว่า คนเราถ้ายังไม่ตายนั้น กายทิพย์เมื่อฝึกจนสามารถแยกกับกายเนื้อได้แล้ว จะมีสายใยทิพย์ติดกับกายเนื้อ เมื่อเกิดเหตุให้กายเนื้อตกใจ กายทิพย์จะรีบกระโจนกลับคืนร่างทันทีเพราะคนยังไม่ตายนั้น กายเนื้อเปรียบดังรังที่จะเกาะอาศัยอยู่เพื่อใช้กรรมต่อไปจนกว่าจะสิ้นอายุขัย หรือว่า
กายเนื้อแตกสลายก่อนสิ้นอายุขัยด้วยเหตุใดเหตุหนึ่ง ดูตัวอย่างเช่นกายเนื้อเหมือนเปลือกหอย กายทิพย์เหมือนปูเสฉวนตราบเท่าที่ยังมีชีวิตอยู่ก็ต้องอาศัยเปลือกหอย
2. จะต้องสวดมนต์ไหว้พระก่อนฝึกวิชานี้ แล้วอาราธนาระลึกถึงบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ครูบาอาจารย์หลวงพ่อโต และเจ้าที่เจ้าทางช่วยคุ้มครองร่างท่านในระหว่างฝึกจิตไม่ให้สิ่งเลวร้ายมารมาผจญแฝงหรือทำลายร่างท่านได้(อธิษฐานตามบทอธิษฐานก่อนปฏิบัติสมาธิหน้า22)
3.ถ้าเกิดเหตุอะไรที่ทำให้ตกใจให้รีบระลึกถึงครูบาอาจารย์ ท่อง
“ ธัมมัง อรณัง ”หลวงพ่อโตช่วยลูกด้วย ขอบารมีหลวงพ่อโตช่วยคุ้มครองและสกัดดวงวิญญาณท่านให้คืนสู่ร่าง ก็จะได้รับความปลอดภัยอย่างแน่นอนและถ้าจะใช้พลังจิตรักษาโรค ก็ให้ระลึกถึงครูบาอาจารย์ทุกครั้ง
4. อย่าริอ่านถอดจิตไปในที่ต่างๆ ซึ่งท่านไม่ควรไป เช่นนรกโลก หรือที่แปลกถิ่นเพราะท่านอาจจะถูกอำนาจจิตที่แข็งแกร่งกว่ากักคุมไม่ให้คืนร่างได้ ถ้าวิญญาณไม่เข้าร่างเกิน 7 วัน ท่านจะต้องตาย และต้องสั่งญาติไว้ว่า ถ้าพบร่างยังอุ่นอยู่ ห้ามโยกย้ายร่างผู้ฝึกถอดจิต เพราะอาจจะเป็นเหตุทำให้กายทิพย์กลับคืนร่างไม่ได้ อย่าเพิ่งเก็บศพอย่างเด็ดขาด เพราะยังไม่ตาย คนที่พบเห็น ช่วยจุดธูปหน้าหิ้งพระ เรียกร้องให้ครูบาอาจารย์ของผู้ฝึกช่วยเหลือ วิญญาณก็จะกลับคืนร่างได้
5. จำไว้ว่า ถ้าท่านไม่ทิ้งครูบาอาจารย์หลวงพ่อโตแล้ว ท่านย่อมเมตตาคุ้มครองอยู่ตลอดเวลา

Love Attack เทศกาลความรักแบบนี้ บอกอ้อมๆให้เขารู้กัน
Chocolate Dreams สาวชั่งฝันและช็อคโกแลต กับหนุ่มหล่อ ไม่แน่คุณอาจจะได้เจอแบบนี้ก็ได้
Love You Like Crazy เพลงเพราะๆ ที่ถ้าส่งให้คนที่เรารัก โลกนี้ก็สีชมพูกันทีเดียว