พ ร ะ เ ค รื่ อ ง (หลวงปู่หล้า เขมปัตโต)
พ ร ะ เ ค รื่ อ ง
หลวงปู่หล้า เขมปัตโต
วัดบรรพตคีรี (ภูจ้อก้อ) จ.มุกดาหาร
ถ า ม
พระเครื่องต่างๆที่เกจิอาจารย์ดังๆ ทั่วไป
ได้จัดทำขึ้นบ้างก็ทำมาหลายร้อยปีแล้ว
บ้างก็เป็นพันปี บ้างก็เพิ่งทำขึ้นเต็มท้องตลาดเต็มประเทศไปหมด
จนไม่ทราบว่าจะเลือกแขวนองค์ไหน
รุ่นไหนดีนั้นมีอิทธิฤทธิ์ให้ผลในแง่อยู่ยงคงกระพันเมตตามหานิยม
หรือโชคลาภต่างๆ จริงหรือไม่ครับ
และพระบางรูปที่ทำขึ้นผมสังเกตดูท่านก็เป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
แล้วทำไมท่านยังทำสิ่งเหล่านี้ออกมาอีก
ถือเป็นเรื่องผิดพระวินัยหรือไม่และมีความสมควรแค่ไหน เพียงใด
ในอดีตพุทธกาลมีการทำพระเครื่องมาหรือไม่
มีผลเป็นที่น่าอัศจรรย์จริงหรือไม่
ต อ บ
พระเครื่องต่างๆ เขาทำมาแล้วตั้งร้อยปีก็ตาม
มันก็ผิดมาตั้งแต่ร้อยปีนั่นเอง
ไม่สมควรในทางพระพุทธศาสนา
แต่มันก็สมควรกับเขาเพราะเขาเห็นอยู่ในระดับนั้น
ให้เข้าใจว่าดีกับชั่วนี้ มืดกับสว่างนี้
มันประชัดขันแข่งกันมาในตัวกี่ล้านๆ ปีที่แล้วก็ไม่ทราบ
บัณฑิตกับคนพาลก็สืบโลกมาอย่างนี้ไม่รู้ว่าอันใดเกิดก่อนเกิดหลัง
ในพระวินัยของพระภิกษุในพรหมชาลสูตรก็ได้
ในพระวินัยปิฏกโดยตรงๆ ก็ดี ในวินัยมุขเล่น ๒ ของนักธรรมโทก็ดี
มิได้ส่งเสริมไสยศาสตร์ใดๆ ทั้งสิ้น
มิได้ส่งเสริมดิรัจฉานคาถาใดๆ ทั้งสิ้น
เรื่องเหล่านี้หลวงปู่ไม่ได้หนักใจเลย
ไม่ได้พยายามทิ่งยากเพราะมันชอบเว้นอยู่แล้ว
ที่หลวงปู่สักยันต์ที่แขนในปัจจุบันนี้อยู่เดี๋ยวนี้
ก็ไม่ได้หมายว่ามันอยู่ยงคงกระพันอันใดเลย
ทำตามธรรมเนียมประเพณีของเขาในสมัยนั้นเฉยๆ
แต่หลวงปู่เห็นตัวเองทุกวันนี้อาเจียนก็จะออกแล้ว
และทำมาตั้งแต่ฆราวาส ๒๔๖๕ และ ๒๔๗๐
ในครั้งพุทธกาลพระเครื่องไม่มี
แต่ไสยศาสตร์ต่างๆ เขาก็มีอยู่ทุกๆสมัยจนนับไม่ไหวเสียแล้ว
นานาจิตตัง นานาธรรมมัง
เพราะพระพุทธศาสนา
ไม่เป็นฐานะของผู้สร้างบารมีต่ำจะมาเลื่อมใสได้โดยง่าย
แม้ถึงจะมาเลื่อมใสก็กลายเป็นนิกายต่างๆแผกเพี้ยนไปด้วย
ยกอุทาหรณ์ เช่น นโม ตัวเดียวกันก็แปลไปต่างกัน
นโมแปลว่า ความนอบน้อมพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์กลมกลืนกัน
ส่วนเขาผู้อยู่ระดับต่ำเขาก็ตีความหมายว่า
นโมเลข มโมผา นโมบัตร นโมเบอร์
และสุราเมระยะนี้ ถ้ากินเป็นระยะๆ
มันไม่เป็นไรหรอกดูเขาก็พูดอย่างนี้
เพราะเขามีความเห็นอย่างนี้
กินเป็นระยะก็เมาเป็นระยะก็เสียทรัพย์เป็นระยะ
มันก็เกิดโรคเป็นระยะ มันก็ต้องติเตียนเป็นระยะ
มันก็ก่อการทะเลาะวิวาทเป็นระยะ
มันก็ไม่รู้จักอายเป็นระยะ มันก็ทอนกำลังปัญญาเป็นระยะ
เขาไม่ว่าซะ มันก็ถูกของเขาแต่มันไม่ถูกของบัณฑิต
คัดลอกบางตอนมาจาก : หลวงปู่หล้า เขมปัตโต ตอบปัญหาธรรม
ใน "จิตตภาวนา มรดกล้ำค่าทางพุทธศาสนา : รวมพระธรรมเทศนาภาคปฏิบัติของพระสุปฏิปันโน"