ธรรมะจากดวงจันทร์

ธรรมะจากดวงจันทร์

ธรรมะจากดวงจันทร์

ในราตรีเงียบสงบผาสุก คุณแม่ยังสาวนั่งเพลินชมจันทร์อยู่กับลูกน้อยช่างซัก
คืนนี้ลูกอยากรู้อะไร?
เมื่อคืนคุณแม่บอกว่าทุกสิ่งต้องมีที่มาใช่ไหมคะ?
แน่นอน
หนูอยากรู้ว่าดวงจันทร์มาจากไหน
ดวงจันทร์เหรอ… อาจมาจากโลกเรานี่เองจ้ะ
มาจากโลกเรา? หมายความว่ามันเคยเป็นส่วนหนึ่งของโลกเราเหรอคะ?
นักวิทยาศาสตร์เดาไว้อย่างนั้น
แล้วทำไมเขาถึงไม่เดาว่ามันลอยมาจากที่อื่นล่ะคะ?
เพราะถ้ามาจากที่อื่น มันจะโคจรรอบโลกเป็นวงรี ไม่ใช่เกือบเป็นวงกลมเหมือนทุกวันนี้
ถ้าเคยเป็นส่วนหนึ่งของโลกเรา ทำไมอยู่ดีๆหาเรื่องแยกตัวออกไปล่ะคะ?
อยู่ๆมันไม่ได้หาเรื่องแยกตัวออกไปเอง แต่เพราะโลกไปชนเข้ากับอะไรอย่างหนึ่งที่มีขนาดใหญ่มาก ส่วนหนึ่งของโลกเลยกระเด็นออกไป
ถ้ามีอะไรมาชนโลกอีก เราจะได้มีดวงจันทร์อีกดวงใช่ไหมคะ?
ตอนนี้โลกเราเย็นตัวลงแล้ว ถ้าชนอีกก็เหมือนทุบลูกหินแตกน่ะจ้ะ พวกเราจะตายกันหมด ที่ตอนนั้นดวงจันทร์แยกตัวออกไปได้ ก็เพราะโลกยังเป็นลูกไฟที่เพิ่งหลุดออกมา

จากดวงอาทิตย์ ยังไม่เย็นตัวลง ทุกหนทุกแห่งปกคลุมด้วยมหาสมุทรลาวา เพราะงั้นจึงเหมือนหนูทุ่มหินลงน้ำ น้ำกระเซ็นออกไปได้ แล้วไปรวมตัวเป็นดวงๆในภายหลัง
สงสัยจัง ทำไมนักวิทยาศาสตร์รู้ดีนักล่ะคะ?
จากหลักฐานหลายๆชิ้นน่ะจ้ะ แต่… ไม่ว่าลูกจะเดา จะเลือกเชื่อ หรือจะพิสูจน์ด้วยหลักฐานชิ้นไหน โลกกับดวงจันทร์ก็มีอยู่จริง และเกิดขึ้นมานานเกินกว่าที่ใครจะทันเห็นวาระแรกของพวกมัน
แปลว่านักวิทยาศาสตร์อาจจะเดาผิดหรือคะ?
วันหน้าถ้าหนูเจอหลักฐานอื่นดีกว่าของพวกเขา พวกเขาก็จะยอมรับว่าเคยเดาผิดจ้ะ แต่วันนี้เขาจะบอกให้หนูเชื่อตามเขาไปก่อน
ถ้าเราไม่มีดวงจันทร์จะเป็นยังไงคะ?
โลกก็จะเบาตัว แล้วโคจรรอบดวงอาทิตย์เร็วขึ้น หนึ่งปีจะมีจำนวนวันน้อยลงมาก อีกอย่างจะไม่มีดวงอะไรโตๆค้างฟ้าให้หนูเห็นเหมือนในคืนนี้ หนูจะไม่มีเรื่องน่าสงสัยมาถามแม่ เท่ากับเราขาดเรื่องคุยกันไปเรื่องหนึ่ง
คุณแม่รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับดวงจันทร์หมดแล้วใช่ไหมคะ?
ไม่หรอกจ้ะ นักวิทยาศาสตร์สรุปให้ฟังยังไง แม่ก็มาบอกหนูต่อตามนั้น แต่แม่ไม่คิดว่าตัวเองรู้อะไรเกี่ยวกับที่มาของดวงจันทร์จริงเลยสักนิด แต่ครูของแม่สอนวิธีมองดวงจันทร์ไว้อย่างหนึ่ง แม่ถึงรู้ว่าพอมองดวงจันทร์เป็น เราก็จะไม่สงสัยอะไรเกี่ยวกับมันอีกเลย
สอนหนูมั่งสิ
ได้จ้ะ แต่หนูต้องทำตามที่แม่บอกทุกอย่างเลยนะ ห้ามบ่นด้วย
ค่ะ!
เอาล่ะ ไหนหนูมองดวงจันทร์แล้วบอกแม่ซิ ว่าเห็นอะไรบ้าง

เห็นอะไร… ก็เห็นดวงจันทร์น่ะสิคะ
พูดถึงสิ่งที่หนูเห็นให้แม่ฟังละเอียดๆกว่านี้หน่อย อะไรก็ได้ที่หนูคิดว่าหนูเห็นจริงๆ
คืนนี้ดวงจันทร์กลมป๊อก
แล้วเห็นอะไรอีก?
ดวงจันทร์คล้ายลูกกอล์ฟของคุณพ่อ
แล้วเห็นอะไรอีก?
เห็น… ว่าดวงจันทร์ไม่เรียบค่ะ เหมือนคนสวยหน้าด่าง
แล้วเห็นอะไรอีก?
เห็นแสงจันทร์สว่างจ้า
แล้วเห็นอะไรอีก?
เห็นฟ้ามืดข้างหลังดวงจันทร์
ชักเห็นเยอะขึ้นแล้วใช่ไหมล่ะ อ้ะไหนเห็นอะไรอีก?
บนฟ้ามืดมีดาวหลายดวง
แล้วเห็นอะไรอีก?
มีเมฆอยู่ใกล้ๆสองสามก้อน
แล้วเห็นอะไรอีก?
ว้า! คุณแม่อ้ะ ก็หนูไม่เห็นอะไรแล้วนี่คะ
เห็นซี่ ดูดีๆ เกือบเห็นแล้ว หนูต้องเพ่งอีกนิดหนึ่ง


ไม่เห็นมีอะไรซ่อนอยู่ซักหน่อย
ใช่! ไม่ได้ซ่อน แต่เปิดเผยชัดเจนเลย
ไหนล่ะ? คุณแม่เฉลยเถอะ
ความขัดเคืองในใจหนูไง! ตอนนี้ชัดแจ๋วกว่าดวงจันทร์ตั้งเยอะเห็นไหม?
อ๋า?!? หนูนึกว่าคุณแม่ให้มองบนฟ้านี่คะ
แม่ให้ดูว่าหนูเห็นอะไร ก็เหมือนที่ธรรมชาติไม่เคยบังคับให้หนูต้องดูแต่โลกและดวงดาวภายนอก จะดูใจตัวเองเมื่อไหร่ก็ได้
ดูแล้วมีประโยชน์อะไรคะ?
หนูคิดว่าอย่างไร ตอนโมโหเป็นสุขหรือเป็นทุกข์?
เป็นทุกข์ค่ะ
เป็นทุกข์มีประโยชน์หรือมีโทษกับใจของหนูเอง?

เป็นโทษค่ะ
เมื่อกี้พอเลิกมองดวงจันทร์ หันกลับมาเห็นใจตัวเองแล้วเกิดอะไรขึ้น?
หายโมโหค่ะ
หายโมโหนี่เป็นประโยชน์หรือเป็นโทษ?
เป็นประโยชน์ค่ะ
ใช่แล้ว… โตขึ้นลูกจะค่อยๆรู้ ว่าประโยชน์สูงสุดของการมีชีวิตอยู่ที่การดับทุกข์ภายในตัวเองได้ ถ้ามีสติเห็นทุกข์ เราจะไม่เป็นทุกข์ ถ้าเอาแต่เห็นและสงสัยโลกภายนอก ลูกจะยิ่งลืมดูทุกข์ภายในใจตัวเอง และเป็นทุกข์กับสิ่งที่ตั้งไว้หลอกล่อเราไปเรื่อยๆ
แล้วดวงจันทร์เป็นทุกข์หรือเปล่าคะ?
เป็นทุกข์ เพราะทนอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้ วันหนึ่งต้องแตกดับไป แต่ดวงจันทร์ไม่รู้สึกทุกข์ เพราะไม่มีใจครอง
งั้นหนูก็ไม่ต้องสงสารดวงจันทร์ใช่ไหมคะ?
ไม่ต้องหรอกจ้ะ หนูต้องขอบคุณดวงจันทร์ต่างหาก ที่เขาให้ธรรมะกับหนู และต่อไปหนูจะขอบคุณได้ทุกสิ่ง ที่ชวนให้หนูย้อนกลับมาดูใจตัวเองเหมือนอย่างดวงจันทร์ในคืนนี้

นอกจากทุกข์ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
นอกจากทุกข์ไม่มีอะไรดับไป

(วาทะพระเถรี วชิราภิกษุณี)

ที่มา : ดังตฤณ (คิดจากความว่าง 3)


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์