หน้าที่ของลูกในการตอบแทนคุณพ่อแม่

หน้าที่ของลูกในการตอบแทนคุณพ่อแม่

นักปราชญ์ในสมัยโบราณ  พรรณาถึงคุณพ่อแม่ไว้ว่า  "หากจะเอาท้องฟ้ามาเป็นกระดาษ เอาเขาพระสุเมรุมาศมาเป็นปากกา เอาน้ำในมหาสมุทรมาเป็นน้ำหมึก จดจารึกพรรณนาคุณพ่อแม่ไปจนกว่าจักสิ้นกระดาษและน้ำหมึก ก็ไม่สามารถจะพรรณนาคุณพ่อแม่ไว้ได้ครบถ้วน"

อาศัยเหตุผลที่ว่า ลูกทุกคนต้องมีหน้าที่ปฏิบัติต่อพ่อแม่ดังนี้

ท่านเลี้ยงเรามา  เราต้องเลี้ยงท่านตอบ
ท่านเลี้ยงเรามาแล้ว  ต้องเลี้ยงท่านตอบ  ข้อนี้หมายความว่า  พ่อแม่ได้เลี้ยงเรามาแล้วเป็นอย่างดี  ครั้นเมื่อท่านแก่เฒ่าลงลูกจึงต้องพยายามเลี้ยงดูท่านเป็นอย่างดี  ให้เหมือนกับที่ท่านได้อุตส่าห์เลี้ยงเรามาด้วยความลำบากยากเข็ญ  วิธีเลี้ยงพ่อแม่นั้นมี ๒ อย่าง  คือ  เลี้ยงร่างกายหนึ่ง  เลี้ยงน้ำใจหนึ่ง

เลี้ยงร่างกาย 
นั้นได้แก่  พยายามจัดข้าวปลา  อาหาร  ขนม  และลูกไม้อย่างดี ๆ  แปลก ๆ  ใหม่ ๆ  มาบำรุงท่าน  ไม่ให้บกพร่องตลอดทุก ๆ มื้อ  เมื่อถึงเวลารับประทานอาหาร 

หาเครื่องนุ่งห่มที่ดี  เหมาะสมแก่ท่านมาให้ตกแต่งตามสมควร

จัดทำที่อยู่อาศัยให้ท่านได้พักผ่อนอย่างผาสุก

ยามท่านป่วยไข้  ก็รีบจัดหาหมอมารักษาพยาบาลและตนเองก็พยายามเฝ้าคอยดูแลท่าน  ไม่ทอดทิ้งให้ท่านว้าเหว่  ต้องร้องเรียกท่านด้วยเสียงอันดัง  เพราะท่านกำลังป่วยไข้  เวลาท่านอาเจียนหรือขี้รด  เยี่ยวราดก็ต้องพยายามจัดล้างจัดซัก  หรือเปลี่ยนผ้าใหม่ให้ท่านด้วยมือของตนเองด้วยความเต็มใจ  ให้เหมือนกับที่ท่านได้ทำให้เราเมื่อเล็ก ๆ

ฉะนั้น  ในการบำรุงเลี้ยงร่างกายนี้  บางคนพ่อแม่มีฐานะดีสมบูรณ์ไม่เดือดร้อนอะไร  เราจะคิดว่าไม่จำเป็นก็ไม่ถูก  เมื่อถึงฤดูมีผลไม้อะไรใหม่ ๆ  และแปลก ๆ  เช่น  เงาะ  หรือ  ทุเรียน  เป็นต้น  ก็ควรจะจัดหาไปให้ท่านบ้าง  แม้สักเล็กน้อยก็ยังดี  ถึงว่าของนั้นท่านจะหาซื้อเองได้  แต่ท่านย่อมจะม่ความรู้สึกว่าของที่ท่านได้รับจากลูกนั้น  ท่านได้กินทั้งผลไม้และน้ำใจที่ได้รับจากลูกด้วย

บางคราวด้วยความรักลูก  ยังอุตส่าห์แบ่งเอาทำบุญกับพระที่วัดใกล้ ๆ  บ้าน  และยังคุยให้ท่านฟังด้วยว่า  ของนี้ลูกเขาฝากมาให้รู้สึกว่ามันทำให้ท่านเกิดความอิ่มอกอิ่มใจมิใช่น้อย

ส่วนการเลี้ยงน้ำใจนั้น  จงได้พยายามทำทุกอย่างไม่ให้ข้ดเคืองใจพ่อแม่  เมื่อท่านมีประสงค์จะเอาอะไร  หรือจะให้เราทำอะไรแล้ว  จงพยายามทำตามที่ท่านต้องการด้วยความเต็มใจ  แม้สิ่งนั้นจะไม่ถูกกับความประสงค์ก็ดี  หรือเป็นของไม่ควรทำ  แต่ไม่ถึงกับเสียหายก็ดี  ก็ขอให้พยายามทำตามเถิด  อย่าขัดขืนให้ท่านไม่สบายใจเลย  จงคอยสังเกตดูว่าสิ่งใดท่านชอบทำสิ่งใดท่านชอบรับประทาน  แม้ท่านไม่ได้บอกขอร้องเรา  ก็จงพยายามจัดทำหรือจัดหามาสนองท่าน

หากทำได้เช่นนี้  ท่านจะปลื้มใจมาก  เพราะดีใจว่าลูกรู้จักน้ำใจท่าน

ถ้าบางครั้ง  ไม่สามารถจะทำตามประสงค์ของท่านได้แล้วก็อย่าเพิ่งออกปากเถียงหรือคัดค้าน  จงเฉย ๆ ไว้ก่อน  แล้วหาอุบายพูดให้ท่านเข้าใจเองว่า  สิ่งนั้นเป็นของผิดหรือเหลือวิสัยที่จะทำได้  อย่างนี้จัดว่าพยามเลี้ยงน้ำใจของพ่อแม่

ครั้นเมื่อท่านล่วงลับไปแล้วเราควรจะ  ทำบุญอุทิศให้ท่าน คือ เมื่อท่านต้องตายทำลายขันธ์ไปตามธรรมดาของสังขารแล้ว  ลูกก็ไม่ควรแต่จะเศร้าโศกเสียใจร้องไห้รำพัน  จนไม่มีจิตใจจะทำฌาปนกิจศพของท่านอย่างไร

ควรจะระงับความทุกข์ใจ  แล้วพิจารณาให้เห็นความเป็นจริงว่า  พ่อแม่เราต้องตายไปตามธรรมดาของคนทุกคนที่เกิดมาแล้วก็ต้องตายทั้งสิ้น  ปู่ย่าของเรา  ทวดของเรา  ท่านก็ตายไปแล้วเช่นเดียวกัน  และท่านเหล่านั้นก็หาเอาอะไรไปได้สักนิดหนึ่งไม่แม้สิ่งใดที่ท่านรักดั่งดวงใจ  ท่านก็เอาไปไม่ได้เลย  แม้ถึงตัวเราเองก็เช่นเดียวกัน  ในไม่ช้าก็ต้องตายไปอีกเช่นเดียวกับท่าน  หน้าที่ของเราก็คือ  ต้องทำบุญกุศล อุทิศผลบุญนั้น ๆ ไปให้แก่ท่านเท่านั้น  เพราะจะทำอย่างอื่นนั้นก็ไม่ถูกไม่ควร  ด้วยว่าท่านไม่มีชีวิตเสียแล้ว  จะบำรุงกายบำรุงใจอะไรไม่ได้ทั้งสิ้น  เพราะนักปราชญ์กล่าวไว้ว่า...  บุญกุศลที่เราอุทิศไปให้เท่านั้นหากท่านได้มีโอกาสรับอนุโมทนาก็จะสำเร็จประโยชน์เป็นความสุขความเจริญแก่ท่านได้

และเราก็ควรทำแต่สิ่งที่เป็นบุญเป็นกุศลจริง ๆ  ไม่ควรทำบาปเลย  ในการทำฌาปนกิจหรือทำบุญอุทิศให้พ่อแม่นี้  เช่น  จะฆ่าเองหรือสั่งให้คนอื่นฆ่า  เอาเนื้อสัตว์มาทำบุญก็ไม่ควร  หรือจะมีมหรสพให้สนุกสนาน  ก็ไม่เหมาะ  เพราะไม่ใช่เรื่องบุญกุศล  ควรทำแต่เรื่องบำเพ็ญทาน  รักษาศีล  เจริญภาวนา  ฟังธรรมเทศนา  ตามสมควรแก่กาลเวลาเท่านั้น  บุญกุศลที่จะอุทิศไปให้แก่พ่อแม่จะได้เป็นบุญที่บริสุทธิ์ผุดผ่อง  ไม่ให้มีบาปอันใดมาเจือปน  ซึ่งจะเป็นเวรกรรมต่อไปอีก  เพราะมาปรารภการทำบุญให้พ่อแม่เป็นเหตุ

การอุทิศก็ต้องตั้งใจอุทิศด้วยน้ำใจอันสงบ  และใสสะอาดจริง ๆ  ไม่ใช่ทำด้วยความรีบร้อน  หรือสักแต่ว่ารินน้ำตรวจจนจบพระยถา...พอเป็นพิธีเท่านั้น

ผู้ที่ได้บำรุงเลี้ยงพ่อแม่ ตอบแทนพระคุณของท่านทั้งสอง ด้วยวิธีการต่าง ๆ ดังกล่าวมาแล้ว ย่อมมีความเจริญก้าวหน้าในชีวิตได้มาก ย่อมได้บุญมาก ย่อมเป็นที่รักใคร่ของผู้พบเห็น เทพยดาให้ความคุ้มครอง ย่อมปลอดภัยเมื่อมีอันตรายแก่ชีวิต …….


ที่มา  :  อานิสงส์ของการสวดพระพุทธคุณ
โดย  :  พระธรรมสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมมฺโม)
           หน้า 38 - 43

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์