วางตัววางจิตอย่างไรในสถานการณ์ความขัดแย้งทางสังคม !!! (1)
พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก
วัดสุนันทวนาราม จ. กาญจนบุรี
• คำ ถ า ม
จากสถานการณ์ความขัดแย้งในสังคม
ทำให้รู้สึกว่าความอดทนของคนเรามีขีดจำกัด
ตามหลักพุทธศานา เราต้องอดทน ให้อภัย
ทำอะไรไม่ได้มากกว่านี้เลยหรือ ?
• คำ ต อ บ
ความอดทนต้องประกอบด้วยปัญญา
พิจารณาเหตุควรอดทน หรืออดทนในสิ่งที่ควร
ในชีวิตของคนเรา
จำเป็นต้องอดทนต่อเหตุที่เข้ามากระทบ 4 อย่างคือ
๑. อดทนต่อความลำบากตรากตรำ
คืออดทนต่อธรรมชาติดินฟ้าอากาศ
๒. อดทนต่อทุกขเวทนา
คืออดทนต่อความเจ็บไข้ได้ป่วยความไม่สบายกาย
๓. อดทนต่อความเจ็บใจ
คืออดทนต่อเหตุแห่งความไม่พอใจที่มากระทบ
เช่น คำพูดที่ไม่ชอบใจ ความบึบคั้นจากผู้บังคับบัญชา
อดทนต่อความโกรธหงุดหงิดขุ่นเคืองใจ
ไม่ระเบิดอารมณ์ออกมา
ไม่ไปทำร้ายเบียดเบียนผู้อื่นทั้งด้วยกายและวาจา เป็นต้น และ
๔. อดทนต่ออำนาจกิเลส
คืออดทนต่อสิ่งยั่งยวนน่าเพลิดเพลินใจ
อดทนต่อสิ่งที่อยากทำแต่ไม่สมควรทำ
เช่น การใช้จ่ายฟุ่มเฟือย การเที่ยวกลางคืน
เล่นการพนัน สูบบุหรี่กินเหล้าเมายา เป็นต้น
ถ้าพิจารณาแล้วจะเห็นว่าเหตุทั้ง๔ นี้
เป็นสิ่งที่วนเวียนอยู่กับชีวิตเราตลอดทั้งชีวิต
พุทธศาสนาจึงสอนให้เรามีความอดทน
ซึ่งเป็นคุณธรรมที่เราควรมี ควรพัฒนาให้ยิ่งๆขึ้นโดยไม่มีขีดจำกัด
การที่เราเห็นว่าสังคมมีปัญหา แตกแยกสามัคคีกัน
แล้วเราหมดความอดทนอดกลั้น ระเบิดอารมณ์ออกมา
แสดงความโกรธไม่มีเมตตา ไม่ให้อภัยกัน
ก็จะยิ่งทำให้สังคมแย่ลง
เราควรมองที่ตัวเองก่อนว่า
เราทำหน้าที่ของพลเมืองที่ดีแล้วหรือยัง
บทบาทหน้าที่ของเราก็มีอยู่ทุกคน
เราทำหน้าที่ของเราถูกต้องสมบูรณ์ไหม
ถ้าเราทำดีที่สุดแล้ว
หากอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด
เป็นไปตามเหตุตามปัจจัยให้รู้จักปล่อยวาง
ลานธรรมจักร