ไม่สยบมัวเมาในความสุขแม้ที่ประณีต
ไม่สยบมัวเมาในความสุขแม้ที่ประณีต
แม้ว่า ความสุขที่ชอบธรรมนั้น เรามีสิทธิ์เสพ ไม่ต้องไปสละละทิ้ง แต่ท่านก็ให้ระวัง เพราะแม้แต่ในการเสพความสุขที่ชอบธรรมนั้น เราก็อาจปฏิบัติผิดได้
จุดพลาดอยู่ตรงที่ว่า เราเสพสุขชอบธรรมที่เรามีสิทธิ์เสพนี่แหละ แต่ถ้าเราเกิดไปติดเพลินหลงมัวเมา ความสุขก็จะกลายเป็นปัจจัยของความทุกข์ และทำให้เกิดโทษได้
ข้อสำคัญ คือ ทำให้เกิดความประมาท
สุข แปลว่า คล่อง ง่าย สะดวก เมื่อมีสุข จะทำอะไรก็ทำได้ง่าย ได้คล่อง ได้สะดวก
ความสุขจึงเป็นโอกาส มีอะไรควรทำก็รีบทำจะได้ผลมาก
ดังนั้น ยามสุขเมื่อเราไม่ประมาท ก็ทำการดีงามสร้างสรรค์ได้มากที่สุด
ความสุขก็เป็นโลกธรรมอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นอนิจจัง เกิด-ดับ มี-หมด กลับกลายได้
ถ้าเรารู้ทันความจริง และไม่ประมาท เมื่อโชคหรือโลกธรรมที่ดีมีมา เราเป็นสุข เราก็ใช้โชค เช่น ลาภ ยศ เป็นเครื่องมือเพิ่มพูนแผ่ขยายความสุข คือใช้มันทำความดี ช่วยเหลือเกื้อกูลเพื่อนมนุษย์ ทำให้ความสุขขยายจากตัวเรา แผ่กว้างออกไปสู่ผู้คนมากมายในโลก
นี่ก็คือ ใช้ความสุขเป็นโอกาสสร้างสรรค์แผ่ขยายความสุข
ขอบคุณบทความจาก ธรรมจักร