ไฟไม่มีเชื้อเพลิงเติมแล้ว ไฟย่อมดับไป ถามว่าไฟนั้นหายไปไหน?
พระพุทธองค์ทรงถกกับวัจฉะถึงพระอรหันต์ที่ขุดรากโคนที่ก่อให้เกิดขันธ์ 5 และสังขาร คือ กิเลสตัณหาและความยึดมั่นถือมั่น ออกหมดแล้ว พระอรหันต์รวมทั้งพระพุทธเจ้านั้นเมื่อตายไป หายไปไหน?
นี่เป็นปริศนาธรรม เพราะว่า ไฟย่อมเกิดจากเชื้อเพลิง คือ ไฟนั้นอาศัยเชื้อ เช่น หญ้าและไม้จึงลุก พอเชื้อนั้นหมดสิ้นไป เมื่อไฟดับ = ตัวจุดไฟ(จิตสังขาร)ก็ดับ พร้อมกับเชื้อของมัน =กิเลส+กรรม ยมบาลจึงหาตัวไม่พบ
แต่ไอ้ตัวที่สร้างจิตสังขาร คือ จิตพุทธะ หรือ นิพพานจิต จิตเดิมแท้ ธรรมญาน หรือจิตประภัสสร จิตว่างบริสุทธิ์ตัวนี้มันไม่ได้ดับไปแต่อย่างไร มันยังคงอยู่ในความว่างหรือสุญญตา ถ้ามันไม่สร้างจิตสังขาร(ตัวจุดไฟ)ออกไปรับเชื้อเพลิง คือ กิเลส+กรรม อีก ภพชาติของจิตสังขาร มันก็ไม่มี และไม่เกิด
คำว่า ‘เกิด' หรือ ‘ไม่เกิด' ใช้ไม่ได้ กับพระอรหันต์และตถาคต เพราะการเกิดหรือไม่เกิดเป็นเรื่องของขันธ์ ๕ (จิตสังขาร+กิเลส+กรรม) เท่านั้น ส่วนวิสังขารคือ จิตพุทธะ หรือ นิพพานจิต จิตเดิมแท้ ธรรมญาน หรือจิตประภัสสร = พระอรหันต์และตถาคต เป็นอสังขตธาตุ อสังขตธรรม ที่บริสุทธิ์ เที่ยงแท้ ยั่งยืน ตลอดไป ดำรงอยู่ในสุญญตา(ความว่าง) ไม่ควรจะกล่าวว่าเกิด ไม่ควรจะกล่าวว่าไม่เกิด ไม่ควรจะกล่าวว่าเกิดก็มี ไม่เกิดก็มี ไม่ควรจะกล่าวว่า เกิดก็หามิได้ ไม่เกิดก็หามิได้.
สรุป
ไฟ = จิตสังขาร+กิเลส+กรรม = สังขตธาตุ(โลกและจักรวาล)
เมื่อไฟไม่มีเชื้อเพลิงแล้ว ไฟย่อมดับไป พอไฟดับก็ไม่มีจิตสังขาร+กิเลส+กรรม อีก แต่ไอ้ตัวสร้างจิตสังขาร+กิเลส+กรรม มันก็ยังมีอยู่ในความว่างหรือสุญญาตานั้น เรียกว่า "นิพพานจิต จิตเดิมแท้ ธรรมญาน" ศาสนาอื่นเรียกว่า "พระผู้เป็นเจ้า"
พระพุทธเจ้าตรัสว่า นิพพานจิต จิตเดิมแท้ ธรรมญาน มันมีอายตนะด้วย เรียกว่า "อายตนะนิพพาน"
ที่มาhttp://www.larnbuddhism.com/