ธรรมบรรยายโดย ท่าน ติช นัท ฮันห์
แล้วเราจะดำรงในปัจจุบันขณะอย่างเต็มเปี่ยมสมบูรณ์ได้อย่างไร วีธีหนึ่งที่เธอสามารถทำได้นั้นคือ การเข้าพึ่งลมหายใจของเธอเอง
เธออาจถามว่าจะเป็นไปได้จริงหรือ บางคนอาจกล่าวว่าลมหายใจของเรานั้นมีอายุสั้นๆ เพียงชั่วครู่ บางครั้งก็เพียงแค่ 10 วินาทีเท่านั้น ควรแล้วหรือที่เราจะเข้าพึ่งสิ่งที่ดำรงอยู่เพียงชั่วครู่เช่นนั้น
หลวงปู่ยังจำงานภาวนาที่เราจัดที่มอสโคเป็นครั้งแรกได้ มีครูที่นับถือศาสนาคริสต์นิกายโปรเตสแตนต์จากเกาหลีบางท่านที่อยู่ในงานได้กล่าวว่า "เราไม่ควรเข้าพึ่งพระพุทธเจ้า เพราะพระองค์นั้นสามารถสิ้นชีพได้ เราควรเข้าพึ่งพระเยซูคริสต์ เพราะพระองค์มีชีวิตอันเป็นอมตะ" การเข้าพึ่งลมหายใจของเรานั้นสั้นและคงอยู่ไม่นาน
เมื่อพูดถึงการเข้าพึ่ง เรามักคิดว่าเราต้องเข้าพึ่งสิ่งที่แข็งแรงทนทาน เพื่อที่เราจะได้มีความสงบสุขและความปลอดภัยได้นานๆ หากเราต้องเลือกเข้าพึ่งในสิ่งที่มีอายุสั้นหรือมีอายุยาว เราคงเลือกเข้าพึ่งสิ่งที่มีอายุยืนยาวมากกว่า คำถามคือใครที่เราควรเข้าพึ่งพิง พระอาจารย์หลินยี่ได้กล่าวไว้ว่า เธอกำลังมองหาพระพุทธเจ้า แล้วเธอที่กำลังมองหาพระพุทธเจ้านั่นเล่าคือใคร เธอเป็นอะไรที่ยั่งยืนสักแค่ไหนกัน หรือเธออาจดำรงอยู่เช่นเดิมได้เพียงไม่กี่วินาที
เรามักคิดว่าเรายั่งยืนกว่าลมหายใจเข้าของเรา แต่นั่นไม่ใช่ความจริง เราเป็นดั่งลมหายใจของเราเอง
ในพระสูตร 42 บทนั้น มีบทหนึ่งที่พระพุทธองค์ทรงถามพระสาวกว่าชีวิตมนุษย์นั้นยืนยาวสักเพียงใด สาวกรูปหนึ่งทูลตอบว่า 100 ปี สาวกอีกรูปหนึ่งทูลตอบว่า 50 ปี สาวกอีกรูปทูลตอบว่า 1 วันกับอีก 1 คืน และแล้วสาวกรูปหนึ่งก็ทูลตอบว่า อายุคนเรานั้นยาวเพียงหนึ่งลมหายใจของเราเอง
พระพุทธองค์กล่าวกับสาวกรูปนั้นว่า ถูกต้องแล้ว ท่านได้เห็นความจริงแห่งชีวิตมนุษย์แล้ว ชีวิตคนเรานั้นยืนยาวเพียงแค่หนึ่งลมหายใจเท่านั้น แท้จริงแล้วอาจสั้นกว่านั้นเสียอีก เพราะในขณะที่เธอหายใจเข้า เธอได้กลายเป็นคนอีกคนแล้ว และ เธอ ที่อยู่ที่นั่นก่อนหายใจเข้า ก็มิได้เป็น เธอ หลังหายใจเข้าอีกต่อไปแล้ว เธออาจคิดว่าตนเองนั้นจะคงอยู่อย่างยืนยาว ดังนั้นเธอจึงพยายามที่จะเข้าพึ่งในสิ่งที่จะดำรงอย่างยืนยาวเช่นกันหรือดำรงอยู่ตลอดไป ถ้าเธอรู้ว่าผู้ที่เข้าพึ่งและสิ่งที่เราเข้าพึ่งนั้นแท้จริงแล้วคือหนึ่งเดียวกัน เธอย่อมสามารถเข้าใจถึงเหตุผลเมื่อเรากล่าวว่าให้เข้าพึ่งลมหายใจเข้าหนึ่งลมหายใจของเราเอง นี่เป็นสิ่งที่เป็นรูปธรรมมาก ในขณะที่เราหายใจเข้า เราสามารถอยู่กับลมหายใจเข้าของเรา เพื่อที่จะมีชีวิตอยู่อย่างแท้จริง หากเรารู้วิธีที่จะเข้าพึ่งลมหายใจเข้า เราย่อมสามารถที่จะเข้าพึ่งลมหายใจออกของเราได้เช่นกัน
บางครั้งเรารู้สึกว่า เราไม่มีความหนักแน่น มั่นคง เราไม่เป็นตัวเอง เราถูกฉุดดึงไปด้วยสิ่งต่างๆ ความคิดต่างๆ โครงการต่างๆ ความกลัวและกิเลสต่างๆ เราไม่มีความสงบสุข นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเราจึงต้องเข้าพี่งพาลมหายใจเข้าของเรา
เพราะการเข้าพึ่งพาลมหายใจเข้าคือการกลับมาเป็นตัวเองอีกครั้ง และนี่คือสิ่งที่เป็นไปได้ การเข้าพึ่งลมหายใจเข้าช่วยให้เธอกลับมาเป็นตัวเองได้ในทันที เธอจะรู้สึกปลอดภัยและมั่นคง เธอจะดำรงในปัจจุบันขณะ อยู่ในขณะนั้นได้อย่างเต็มเปี่ยม เธอจะตระหนักรู้ว่าเธอคือความมหัศจรรย์แห่งชีวิตและเธอสามารถสัมผัสกับความมหัศจรรย์แห่งชีวิตที่กำลังรายล้อมรอบเธออยู่
ลมหายใจเข้านั้นแสนมหัศจรรย์ ทำให้ฉันรู้สึกว่ากำลังอยู่ที่บ้านอย่างแท้จริง ลมหายใจเข้าทำให้ฉันรู้สึกว่าฉันได้มาถึงแล้ว และทำให้ฉันรู้ว่าฉันไม่ต้องวิ่งไล่ไขว่คว้าอะไรทั้งสิ้น นี่คือเหตุผลว่าทำไมการเข้าพึ่งลมหายใจเข้าจึงเป็นการปฏิบัติที่แสนมหัศจรรย์ ทุกคนต่างหายใจเข้าและหายใจออกอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่เป็นเรื่องจำเป็นที่เราต้องประดิษฐ์ลมหายใจเพื่อที่จะเข้าพึ่งลมหายใจ เพราะลมหายใจของเราอยู่ที่นั่นอยู่แล้ว
เพียงเธอน้อมใจกลับมาเบิกบานกับปัจจุบันขณะ เธอจะมีชีวิตชีวาในทันทีทันใด เธอจะเป็นตัวเธอเอง เธอจะสามารถบ่มเพาะความมั่นคงและความอิสระให้กับตัวเองได้ เธอจะไม่เป็นเหยื่ออีกต่อไป ไม่เป็นทาสของใคร การหายใจอย่างมีสติระลึกรู้นั้นเป็นการปฏิบัติที่สำคัญมากและเป็นการปฏิบัติการไม่ปฏิบัติ เพราะอย่างไรเธอก็ต้องหายใจเข้าและหายใจออกอยู่แล้ว เธอเพียงแต่นั่งและเบิกบานกับลมหายใจเข้าของตัวเองแม้นั่นอาจทำให้ดูไม่เหมือนนักปฏิบัติแต่เธอกำลังเป็นนักปฏิบัติตัวจริงคนหนึ่งเลยทีเดียว
เธอต้องไม่ใช้ความพยายามมากเกินไปเธอเพียงแต่เบิกบานกับลมหายใจเข้าของตัวเอง นี่คือสิ่งที่พระอาจารย์หลินยี่ต้องการให้เราปฏิบัติ ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้นเพียงแค่เป็นตัวของเราเอง นั่งตรงนั้นเพื่อเบิกบานกับลมหายใจเข้า เพื่อที่เธอจะเป็นทุกสิ่งและเป็นอมตะ
ที่มา หมู่บ้านพลัม thaiplumvillage
เข้าพึ่งลมหายใจเข้าของตนเอง
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!