รอยไส้เดือน เกลื่อนไป ในผิวดิน
เป็นลวดลาย หลายระบิล หลายท่วงท่า
มีความหมาย ว่ากระไร ใครสงกา
หรือเห็นว่า ไร้สิ่ง น่าสนใจ
คือจดหมาย ไส้เดือน เตือนมนุษย์
ไม่รู้สิ้น รู้สุด มาแต่ไหน
ทั้งคืนวัน ขยันเขียน เวียนทำไป
มนุษย์อ่าน หรือไม่ ไม่อาวรณ์
มันพร่ำบอก พร่ำสอน พร่ำวอนว่า
พร่ำพรรณนา ให้ระวัง ให้สังหรณ์
ว่าสรรพสิ่ง เปลี่ยนไป ไม่ถาวร
ทุกทุกตอน อนิจจัง อนัตตา
มันให้อัต- ถาธิบาย หลายแสนอย่าง
อุทาหรณ์ ต่างต่าง ครบทุกท่า
รอยไส้เดือน เกลื่อนทั่ว พสุธา
ก็เพราะว่า ไส้เดือนรัก คนนักเอย ฯ
การศึกษาพระธรรมไม่ใช่สิ่งที่ยากเย็นเกินไป หากเป็นอยู่ด้วยสติแล้วไซร้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบข้างตัวเราย่อมสามารถนำมาประยุกต์ ใช้เป็นธรรมะสอนใจได้ แม้กระทั่งไส้เดือน
ที่เห็นในภาพ เป็นรอยไส้เดือนเลื้อยไปเลื้อยมา ท่านบอกว่า มันเขียนจดหมายฝากให้มนุษย์ เราอ่านจดหมายของโบตั๋นของใครต่อใครเยอะแยะแล้ว ลองมาอ่านจดหมายของไส้เดือนดูเองบ้าง ดูซิว่าสำบัดสำนวนจะหยดย้อยขนาดไหน
ธรรมชาติของไส้เดือนเมื่อเกิดขึ้นมาในโลกมีแต่สร้างประโยชน์ให้กับโลก มันช่วยพรวนดินให้ต้นไม้ต้นหญ้าได้งอกงาม เป็นสัตว์ที่อยู่ในดินก็จริง แต่เมื่อมันจุตายมันจะขึ้นมาตายบนพื้นดิน เป็นประโยชน์แก่ไก่ แก่นก ได้จิกกินเป็นอาหาร
แต่ก่อนที่มันจะตายยังได้เขียนร่องรอยเอาไว้อีก ร่องรอยอันนี้แหละคือจดหมายที่มันเขียนฝากเอาไว้ให้กับมนุษย์ เพื่อมนุษย์จะได้อ่าน ได้ศึกษาเรื่องราวของชีวิต
แม้แต่ไส้เดือนก่อนตายยังฝากร่องรอยเอาไว้ให้กับโลก มนุษย์ล่ะจะมีร่องรอยอะไรไว้ฝากฝัง
ชีวิตของคนเราอยู่ไม่ได้นาน โดยกาลประมาณไม่เกินร้อยปีต้องตายจากกัน ควรสร้างความดีฝากเป็นรอยตราให้อายไส้เดือน
อันวัวควายตายแล้วยังเหลือเขาและหนัง ช้างมีงาเป็นอนุสรณ์มนุษย์ต้องทำความดีประดับไว้ในโลกา
ทำดีไว้ให้ควรค่าคำว่าคน
ให้โลกล้นด้วยคนดีสักทีเอย
ที่มา : หนังสือเซ็นในสวนโมกข์ ของท่านพุทธทาส ภิกขุ
Cradit : Dhammathai.org
http://board.palungjit.com/