ธรรมบรรยายโดย ท่านติช นัท ฮันห์
ผลส้มนั้นมีรสหวาน แต่ถ้าเธอรับประทานส้มด้วยความหลงลืม ตกอยู่ภายใต้ความ กระวนกระวายใจ เศร้าเสียใจ ผลส้มจะไม่ได้อยู่ที่นั่น แต่ถ้าเธอนำกายและใจกลับมา รวมกัน ดำรงอยู่ในปัจจุบันอย่างเต็มเปี่ยม แล้วจึงเริ่มปอกเปลือกส้ม เธอจะพบว่าผลส้ม คือปาฏิหาริย์ ถ้าเธอมีสติเต็มเปี่ยม ณ ที่นั้น การนั่งปอกเปลือกส้มก็จะเป็นสิ่งมหัศจรรย์
ฉันเคยจัดให้มีช่วง "ภาวนากับผลส้ม" โดยใช้เวลาครึ่งชั่วโมงในการรับประทานผลส้ม ถ้าเธอรับประทานด้วยความมั่นคง ความอิสระ และความตั้งมั่นในสมาธิ การรับประทาน ผลส้มจะเป็นสิ่งที่แสนมหัศจรรย์ มันอาจจะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเธอเลยก็ได้ เช่นเดียวกับการรับประทานอาหาร เราควรปอกเปลือกส้ม ดมกลิ่น มองผลส้มเพื่อที่จะเห็นดอกส้มที่ผลิบาน เห็นสายฝนและแสงแดดที่อยู่ในดอกส้ม เห็นต้นส้มที่ใช้เวลา หลายเดือนเพื่อนำสิ่งวิเศษนี้มาให้เธอ ถ้าเธอไม่มีสติเต็มเปี่ยม ผลส้มจะไม่เป็นสิ่งที่มีค่า สำหรับเธอ เพราะถ้าเธอไม่ได้อยู่ที่นั่นอย่างแท้จริง ผลส้มเองก็จะไม่ได้อยู่อย่างแท้จริง ด้วย ถ้าเธออยู่ที่นั่นอย่างแท้จริง เต็มเปี่ยมด้วยชีวิต ตัวเธอเองจะกลายเป็นปาฏิหาริย์
จริงๆแล้วการมีชีวิตอยู่ขณะนี้ คือปาฏิหาริย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด แต่หากเราไม่มีสติเสียแล้ว เราจะไม่สามารถสัมผัสปาฏิหาริย์ได้ เราจะเอาแต่บ่นและบ่น ถ้าเธออยู่ที่นั่น ผลส้มก็จะ อยู่ที่นั่นด้วย และปาฏิหาริย์ก็จะบังเกิด การติดต่อระหว่างเธอและผลส้มจะนำมาซึ่งชีวิต ที่แท้จริง เพียงหยิบกลีบส้มเข้าปาก ปิดปากลง และสัมผัสน้ำจากกลีบส้มอย่างมีสติ เธอมีเวลาที่จะทำอย่างนี้ไหม? เธอใช้เวลาไปกับอะไร? เราได้ใช้เวลาไปกับการใช้ชีวิต หรือใช้ไปกับความห่วงกังวล หรือการวางแผน?
ที่มา thaiplumvillage
ชีวิตคือปาฏิหาริย์
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!