ธรรมบรรยายโดยท่านติช นัท ฮันห์
หมู่บ้านพลัม
สติเป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถมีได้ เมื่อเธอดื่มน้ำและรู้ตัวว่ากำลังดื่มน้ำนี่ก็คือสติ เราเรียกว่า การดื่มน้ำอย่างมีสติ เมื่อเธอหายใจเข้า เธอตระหนักรู้ว่าเธอกำลังหายใจเข้า นี่ก็คือการหายใจ อย่างมีสติ เมื่อเธอเดินและเธอรู้ว่าเธอกำลังเดิน นี่ก็คือการเดินอย่างมีสติ ในทำนองเดียวกัน เราสามารถมีสติในการขับรถ สติในการทำอาหาร โดยไม่จำเป็นต้องอยู่ในห้องฝึกสมาธิจึงจะมี พลังแห่งสติได้ เธออาจอยู่ในครัวหรือในสวนขณะที่กำลังบ่มเพาะพลังแห่งสติอยู่ก็ได้ นี่เป็น วิธีฝึกปฏิบัติที่สำคัญที่สุดที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมแห่งนี้ เธอทำทุกอย่างอย่างมีสติ เพราะเธอต้องการ พลังชนิดนี้อย่างมากในการแปรเปลี่ยนและการเยียวยา เธอรู้ว่าเธอสามารถทำได้และจะทำได้ ดีขึ้น ถ้าเธอกำลังแวดล้อมไปด้วยพี่น้องที่ปฏิบัติร่วมกันบนเส้นทางเดียวกัน หากอยู่ตามลำพัง เธออาจลืมหรือเลิกปฏิบัติหลังจากสองสามวันหรือสองสามเดือนล่วงไป แต่ถ้าเธอได้ฝึกปฏิบัติ กับสังฆะเป็นประจำ เธอจะได้รับการเกื้อกูล และสติของเธอก็จะเติบโตแข็งแรงขึ้นทุกวัน
ผู้ที่ฝึกสติจนมีศิลปะในการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมีสตินั้น เมล็ดพันธุ์แห่งสติในคลังวิญญาณ ของเขาจะแข็งแรงมาก เมื่อใดก็ตามที่เขาสัมผัสเมล็ดพันธุ์นี้ หรือเมื่อเขาร้องขอความช่วยเหลือ พลังแห่งสติก็พร้อมที่จะออกมาช่วยเขาเสมอ ดังเช่นแม่ของลูกน้อยที่กำลังทำอาหารในครัว แต่ก็พร้อมที่จะออกมาช่วยลูกน้อยทันทีที่ได้ยินเสียงลูกน้อย สติมีพลังชักนำให้จิตตั้งมั่น หรือ สร้างพลังแห่งสมาธิ เมื่อเธอดื่มน้ำอย่างมีสติ เธอจะตั้งมั่นอยู่กับการดื่มน้ำ เมื่อเธอมีความตั้งมั่น ชีวิตก็จะมีความลึกซึ้ง เธอจะได้รับความเบิกบานและมั่นคงมากขึ้น เพียงแค่เธอดื่มน้ำอย่างมีสติ เธอสามารถขับรถได้อย่างมีสติ หั่นแครอทอย่างมีสติ เมื่อเธอทำสิ่งต่างๆ ได้อย่างมีสติ เธอจะมี จิตที่ตั้งมั่นและมีชีวิตที่ลึกซึ้งในทุกขณะ และเราทุกคนก็รู้ว่าสติและความตั้งมั่น จะช่วยนำเรา ไปสู่ความเข้าใจอันลึกซึ้งหรือปัญญาดังที่เราต้องการ
ถ้าเธอไม่หยุด ไม่มีสติ ไม่มีพลังแห่งสมาธิ เธอจะไม่มีวันเข้าถึงความเข้าใจอันลึกซึ้ง การฝึก สมาธิภาวนาคือการหยุด สงบตนเองลง มีความตั้งมั่นและฝึกมองอย่างลึกซึ้งถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ณ ที่นี่เวลานี้ องค์ประกอบแรกของสมาธิภาวนาคือ การหยุด องค์ประกอบที่สองคือ การมองอย่าง ลึกซึ้ง
ฉันอยากให้คำจำกัดความของคำว่า "สติ" ว่าเป็นการฝึกปฏิบัตินำกายและใจมารวมกัน เป็นหนึ่งเดียวกัน เป็นการฝึกปฏิบัติเพื่อให้เราดำรงอยู่ในปัจจุบันอย่างสมบูรณ์ และมีชีวิตอย่าง เต็มเปี่ยม เธอมีนัดกับชีวิต และเธอไม่ควรผิดนัดนี้ เวลาและสถานที่นัดหมายของเธอก็คือ ที่นี่เวลานี้ ถ้าเธอผิดนัดกับปัจจุบัน ผิดนัดกับที่นี่เวลานี้ เธอจะผิดนัดกับชีวิตซึ่งเป็นเรื่องที่ ร้ายแรงมาก ดังนั้นการเรียนรู้วิธีที่จะกลับไปสู่ปัจจุบัน คือการเริ่มต้นการฝึกสมาธิภาวนา เพราะ เมื่อเธออยู่นี่ สิ่งอื่นก็อยู่ที่นี่ด้วย ถ้าเธอไม่มีเวลาว่างสำหรับชีวิต ชีวิตก็จะไม่มีเวลาว่างสำหรับ เธอเช่นกัน
สติจะช่วยให้เธอตระหนักรู้การหยุดของเธอ เธอหยุดวิ่งเพราะเธออยู่ที่นั่นอย่างแท้จริง เธอหยุดที่จะถูกชักนำโดยพลังนิสัยและความหลงลืมของเธอ เมื่อเธอสัมผัสสิ่งสวยงามด้วยสติ สิ่งนั้นจะกลายเป็นสิ่งสดชื่นและช่วยเยียวยาเธอ ด้วยสติเราสามารถสัมผัสสิ่งที่เป็นด้านบวก และสามารถสัมผัสสิ่งที่เป็นด้านลบได้ด้วย ถ้าเรามีความเบิกบาน สติจะปล่อยให้เราตระหนักรู้ ในรูปแบบของความเบิกบาน สติจะช่วยให้เราได้ประโยชน์จากความเบิกบาน และเปิดโอกาส ให้ความเบิกบานนั้นเติบโตขึ้น เพื่อช่วยเราในการแปรเปลี่ยนและการเยียวยา
ที่มา thaiplumvillage
นัดหมายกับชีวิต
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!