ไม่มีอะไรอิงอะไีร ได้อย่างแท้จริง

ไม่มีอะไรอิงอะไีร ได้อย่างแท้จริง

บทความนี้ขอเขียนให้ผู้หญิงและเด็ก (ขอใช้ภาษาอย่างโลก ๆ จะได้เข้าใจง่าย ๆ)

ผู้หญิงเมื่อยามแรกแย้ม ก็ฝันหวานเรื่องคู่ครอง เรื่องครอบครัวอันอบอุ่น
ชีวิตจากความฝันก็ผันเป็นความจริง จากเดิมที่มีเขาเหมือนเงาตามตัว ถนอมตามใจทุกอย่าง
อยู่กันนานไป ก็มีความเบื่อความเซ็ง เข้ามาแทนที่ความหวาน ฝันสลายปีศาจร้ายก็ปรากฏร่างอันแท้จริง


ผู้หญิงร้องไห้ เด็กร้องไห้ สังคมร้องไห้ เพราะมีชีวิตด้วยการพึ่งพิงอิงอาศัยสามี
อิงอาศัยพ่อ อิงอาศัยผู้ชาย ถึงต้องร้องไห้กันอย่างนี้

แ้ท้จริงไม่มีอะไร ที่จะอิงอาศัยได้เลย


อย่าคิดว่าจะอิงอาศัยอะไรหรือใครไปตลอดชีวิต ให้ตระหนักไว้เลยว่า
อาหารต้องกินเองถึงจะอิ่ม ลมหายใจต้องหายใจเองถึงจะมีชีวิตอยู่ได้
วันหนึ่งก็ต้องทิ้งร่างกาย ตายเน่าสลายกลายเป็นธาตุทั้ง ๔ สัจธรรมข้อนี้หนีไม่พ้นกันทุกคน


สังคมปัจจุบันมีสื่อและสิ่งหลอกล่อยั่วยวนอายตนะมากเหลือเกิน ผู้ที่ไม่เคยได้ฝึกจิตมาเลย
ก็ต้องตกเป็นทาสแห่งตัณหา ถูกตาหูจมูกลิ้นกายใจ หลอกลากไปตามทางกิเลส
ปัญหาผู้ชายติดยาเสพติด ปันใจให้หญิงอื่น จึงมีมากขึ้น
เพราะกระแสวัตถุนิยม เนื้อหนังนิยม ผู้ชายน้อยคนที่จะทวนกระแสสังคมไปได้


ผู้หญิงจึงต้องเ้ข้มแข็ง หันหาธรรมะเป็นคู่ครองจิตใจ ธรรมะจำเป็นสำหรับทุกช่วงของผู้หญิง
ก่อนแต่ง ขณะแต่ง หลังแต่ง ต้องมีธรรมะเป็นคู่ครอง
มองชีวิตล้วนอนิจจัง ไ่ม่เที่ยงแท้แน่นอน ไม่ใช่เราของเรา
ทุกจังหวะย่างก้าวของชีวิต ไม่แน่นอน ไม่สามารถอิงอาศัยอะไรใดๆได้ทั้งสิ้น
แม้กระทั่งลมหายใจก็ไม่แน่นอน ผู้หญิงต้องคิดได้อย่างนี้


ผู้หญิงที่ต้องเป็นทั้งแม่และเมีย ยอมหวานอมขมกลืนกับผู้ชายอ่อนแอแพ้กิเลส
อาจจะทุกข์หนักกว่าผู้หญิงที่เป็นแม่ (ม่าย) จงอย่ากลัวการก้าวเดิน
อย่ายึดติดกับสิ่งใด ๆ เลย เพราะความยึดติด นำมาซึ่งความทุกข์


ผู้หญิงอ่อนโยน อ่อนหวาน แต่ต้องไ่่ม่อ่อนแอแพ้กิเลส
ผู้หญิงต้องมีธรรมะเป็นคู่ครอง จึงจะต้านทานกิเลสได้

ผู้หญิงจงเจริญในธรรมยิ่ง ๆ ขึ้นไป


ขอบคุณที่มา  ::  คุณตะเกียงแก้ว  เว็บธรรมจักร