ปฏิบัติธรรม เปลี่ยนนิสัย
เมื่อก่อนข้าพเจ้าเคยถูกตามใจมาก ตั้งแต่เล็กอยากได้อะไรก็จะเอาให้ได้
เมื่อเรียนก็เป็นคนชอบโกรธ มักดื้อดึง
ตามใจตน ปากร้าย นินทาเก่ง
และเป็นคนชอบวิจารณ์ แต่ หลังปฏิบัติธรรมก็พบแก้วดวงวิเศษที่สามารถเปลี่ยนนิสัย และพฤติกรรมที่ไม่ดี ให้ค่อยลดลงได้และเปลี่ยนไปในแนวทางที่ดีขึ้น เมื่อก่อนก็เคยคิดว่า เราก็อ่านหนังสือธรรมะอยู่แล้ว ก็ใช้สมองคิดว่า
เรารู้ธรรมะตัวอย่างที่ต้องเป็นแบบ ๆ นี้ แบบนี้ จนกระทั่งได้ไปเจอหลวงพ่อ
ท่านพูดเหมือนเป็นการอบรมสั่งสอนว่า มีแต่ธรรมแมะ ไม่มีธรรมะ ข้าพเจ้าก็ได้นั่งคิดพิจารณาว่า ก็จะจริง เพราะที่อ่านหนังสือธรรมะมา ก็รู้ รู้อยู่แก่ใจว่าสิ่งไหน ควรทำ สิ่งไหนไม่ควรทำ รู้ แต่ก็ทำไม่ได้อย่างที่ใจคิด แม้จะรู้ธรรมะจากหนังสือ จุดเปลี่ยนก็คือ การเริ่มต้นปฏิบัติธรรม ข้าพเจ้าฝึกจิตตามแนวสติปัฏฐาน 4 ช่วงตอนไปฝึกจิตก็มีสิ่งที่มากระทบ เช่น มีเรื่องเสียใจ ถึงกับน้ำตาร่วงในห้องปฏิบัติธรรมร่วมชั่วโมงจนอาจารย์เข้ามาปลอบ มาบอกเราว่าเราต้องเข้มแข็ง เพราะการปฏิบัติธรรมเป็นการฝึกจิตให้เข้มแข็งให้สามารถไปต่อสู้กับอะไรข้างนอกได้ เคยไปปฏิบัติธรรม ต้องตื่นแต่ตี 4 แต่ข้าพเจ้าเป็นคนขี้เกียจมาก ลุกไม่ขึ้น
อาจารย์ก็พูดขึ้นในห้องปฏิบัติธรรมว่า เวลาลุกไม่ขี้นตอนตี 4 ให้คิดว่า
ถึงเวลาสร้างความดีแล้ว หลังจากได้ไปปฏิบัติธรรม บ่อยครั้งขึ้น ก็ได้สังเกตพบว่า คนเรานี่น่าจะมีกลิ่นกายจริง พอไปปฏิบัติธรรมขี้น ก็พบว่า เหมือนได้กลิ่นตัวหอมคล้ายกลิ่นดอกไม้ แต่จะเป็นบางครั้งเท่านั้น จนกระทั่งในชีวิตของข้าพเจ้าถูกโดนไสยศาสตร์ ก็ได้ใช้วิชาสติปัฏฐาน 4 นี่แก้ ก็ได้ไปปฏิบัติธรรมที่นี่ และ นี่เป็นตัวอย่างเบื้องต้น และหลังจากข้าพเจ้าได้ไปปฏิบัติธรรมหลาย ๆ ครั้ง ก็ได้พบว่า กรรมฐานเปลี่ยนนิสัย ความคิด และจิตใจคนได้จริง ทั้งนิสัยขี้โกรธ ขี้โมโห และความขี้เกียจ และอื่น ๆ
และข้อสังเกต โดยส่วนตัวข้าพเจ้า พบว่า เมื่อก่อนข้าพเจ้าเป็นผู้หลงอารมณ์มาก หรือที่เรียกว่า มีอารมณ์ artist หรือ ติส ค่อนข้างสูง เลยอยู่อย่างมีความรู้สึกว่า หลงอารมณ์มาก ๆ และก่อนที่จะมาพบธรรมะนี้ ก็หลงในความคิดของตนเองว่า หลักการดำเนินชีวิตของคนเป็นอย่างนั้น เป็นอย่างงี้ มีมุมมองที่ค่อนข้างมองโลกโดยความรู้สึกและความคิดของตน เช่น พวกนักปราชญ์ หรือ นักกวีคนดังที่มีมุมมองโดยใช้ความรู้สึก ความคิด และถ่ายทอดอารมณ์ออกมาเป็นปรัชญาของตน ถ้ามอง ๆ แล้ว ข้าพเจ้าเห็นตามข่าวดาราบางท่าน ก็อาจมีแนวคิดแบบดังกล่าว คือ ติส มากมีมุมมอง มีปรัชญาจากความรู้สึกที่ไปรับรู้กับสถานการณ์ หรือ สังคม วิถีชีวิตในสังคม ตามมุมมองของตน จนบางทีก็ ติส จนหลุดโลก ซึ่งเป็นที่น่าเสียดาย ถ้าเค้าได้รับรู้ธรรมะ ได้ปฏิบัติธรรมะด้วยใจ คงจะเข้าใจเหตุผล ธรรมชาติ และสัจจธรรม โดยไม่อยู่อย่างหลงอารมณ์ในมุมมองของความคิดของตนอีกต่อไป