ถาม : ตัดความห่วง มันยากกว่า ...?
ตอบ : มีใครเขาตัดได้ล่ะ ? พระพุทธเจ้ายังตัดไม่ได้เลย
ที่อาตมาพูดไม่ได้ลบหลู่พระพุทธเจ้านะ ความห่วงใยในครอบครัวเป็นเรื่องปกติ พระพุทธเจ้าท่านก็ห่วงเหมือนกับพวกเรา
เพราะเมื่อถึงเวลาท่านก็เสด็จไปโปรดพระพุทธมารดา เสด็จไปโปรดพระประยูรญาติ เสด็จไปโปรดพระนางพิมพา พระราหุล ถ้าไม่ห่วง จะไปทำเกลืออะไร..? เพียงแต่ความห่วงของพระองค์ท่าน คือ ทำตามหน้าที่ "ปุตตะทารัสสะสังคะโห" สงเคราะห์บุตร ภรรยาและหมู่ญาติเหล่านี้
ถ้าสงเคราะห์แล้วเกิดไม่ได้ผลขึ้นมา พระองค์ท่านก็ไม่กังวล ยอมรับว่าเป็นกฎของกรรม แต่พวกเราถ้าสงเคราะห์แล้วไม่ได้ผล เราจะกังวล จะต่างกันตรงนี้เอง
ตัวอย่างพระสารีบุตร วาระสุดท้ายของท่านแล้ว ท่านถ่ายเป็นเลือดจะมรณภาพอยู่แล้ว รู้ว่าแม่เป็นมิจฉาทิฐิ ก็อุตส่าห์กลับไปโปรด ท่าน ก็ทำตามหน้าที่ของลูกที่ดี..ใช่ไหม ? สงเคราะห์แม่ได้เท่าไรก็แค่นั้น
ถาม : หน้าที่ในที่นี้ อะไรคือขอบเขตหน้าที่ของเรา ที่เราคิดว่าไม่อกตัญญู และเป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว เช่นว่าเราจะอกตัญญูเกินไปไหม ? ....ทิ้งพ่อ แล้วพ่อจะคิดอย่างไร
ตอบ : ถ้าหากว่าสงเคราะห์ได้ ก็ให้การสงเคราะห์ ถ้ายังสงเคราะห์ไม่ได้ ก็ปล่อยวางไว้ แต่ให้ตั้งจิตหวังไว้ว่า ถ้ามีโอกาสเราจะสงเคราะห์ท่านอีก
ถาม : แล้วเวลาพ่อว่ากล่าวพระอริยะ ทำให้เราโกรธ จะทำอย่างไรไม่ให้เราโกรธ ?
ตอบ : แล้วจะไปโกรธทำไมล่ะ ?
ถาม : กลัวเขาจะลงนรกค่ะ ?
ตอบ : เห็นพ่อลงแล้วเราก็โดดตาม..! ใช่ไหม ? แหม..! ที่โกรธของเรานั่น เท่ากับเราโดดตามไปด้วยแล้ว
ถาม : ให้เฉยๆ หรือคะ ?
ตอบ : วางอุเบกขา ถือว่ากรรมของเขา
"กัมมัง สัตเต วิภัชชะติ" กรรมย่อมเป็นเครื่องจำแนกสัตว์ ใครทำใครได้
ถ้าเราจะสงเคราะห์ เพื่อให้พ่อได้รู้ ได้เข้าใจว่า สิ่งทั้งหลายเหล่านี้เป็นอย่างไร นานๆ ก็แหย่ไปหน่อย ถ้าเห็นว่าท่านยังรับไม่ไหว เราก็ถอยกลับมาก่อน ว่าไปเรื่อยจนกว่าท่านจะทำได้
สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนกุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๔๔
หน้าที่ของลูกที่ดี
หน้าที่ของลูกที่ดี
ขอบคุณบทความจาก วัดท่าขนุน จ.กาญจนบุรี
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!