คนเราเมื่อตอนเป็นเด็กก็คิดอย่างหนึ่ง คิดตามประสาเด็ก ก็ไม่คิดว่าคนโตจะเป็นอย่างไร พอเราเป็นหนุ่มเป็นสาวก็คิดอย่างหนึ่ง พอแก็คิดอีกอย่างหนึ่ง พอจะตายก็คิดอีกอย่างหนึ่ง เรียกว่า "คิดไม่ถึง"
"คิดไม่ถึง"
ตอนเป็นเด็กเราก็คิดไม่ถึงคนโต
ตอนโตเราก็คิดไม่ถึงคนแก่
ตอนแก่เราก็คิดไม่ถึงคนตาย
ตอนมีก็ไม่ได้คิดถึงคนจน
ตอนไม่ป่วยก็ไม่ได้คิดถึงคนป่วย
ตอนไม่ป่วยก็ไม่ได้คิดถึงคนตาย
ใจคนเราจึงไม่ได้พิจารณา ถ้าเรามีปัญญาพิจารณาเหตุผลทุกอย่าง ๆ มันก็จะมีการปลงใจ มีการทำใจและรงับใจได้ บางคนเสียใจนึกว่า "ชีวิตเรามันไม่ดีคนเดียว…ชีวิตเราตกต่ำคนเดียว..ทำไมเราจึงอาภัพคนเดียว ?…ทำไมเราจึงลำบากยากจยคนเดียว ?… ทำไมเราจึงเป็นโรคคนเดียว ?"
เขาไม่ได้คิดว่า "ทุกคนจะต้องเป็นอย่างเราเหมือนกัน คนที่เป็นมากกว่าเราก็มี คนที่จนมากกว่าเราก็มี คนที่เจ็บกว่าเราก็มี…คนที่ลำบากมากกว่าเราก็มี"
ถ้าเราคิดได้อย่างนี้เราก็จะมีจิตใจที่ดีตลอดไป ธรรมะของพระพุทธเจ้านี่ทำให้ใจของเราสบายขึ้น ทำให้มองอะไรเป็นเรื่องธรรมดามากขึ้น" เราก็ต้องทำใจอย่างนี้