ในชั่วหนึ่งลมหายใจคุณคิดอะไรบ้าง??
มองอะไรก็เป็นธรรม คิดอะไรก็เกิดธรรม
อาจจะตอบว่า จะบ้าเหรอ !! ใครจะไปคิดทัน แต่ก็หาคิดได้ไม่ ว่าที่ตอบนั่นน่ะใช้เวลาคิดยังไม่ชั่วกระพริบตาด้วยซ้ำ
มองอะไรก็เป็นธรรม มันเป็นยังไง
มันก็คงไม่มีอะไร เห็นแมวมันก็คือแมว เห็นหมามันก็คือหมา เห็นตึกมันก็คือตึก ซึ่งมันเป็นตามสภาพเช่นนั้น มันก็คงจะเป็นอะไรไปไม่ได้ ดังนิทานเก่าแก่ได้เล่าว่า มีพระอาจารย์รูปหนึ่ง เอากาน้ำดินเผาวางไว้ที่โต๊ะแล้วถามศิษย์ว่า “สิ่งนี้คืออะไร” แน่ล่ะ บรรดาศิษย์ทั้งสามคนก็ต่างตอบว่า “กาน้า” ต่อมาเมื่ออาจารย์ทุบกาน้ำนั้นจนแตกก็ถามต่อว่า “แล้วทีนี้เห็นเป็นอะไร” คำตอบมันก็ต่างกัน แต่มองเป็นธรรมได้ คิดเป็นธรรมได้ทั้งสิ้น
ศิษย์คนแรก “ที่จริงแล้วมันก็เป็นแค่ดินที่เอามาปั้นขึ้นรูปเป็นกาน้ำนี่เอง ศิษย์เห็นว่าเป็นเช่นนี้ท่านอาจารย์”
ศิษย์คนที่สอง “ข้าพเจ้าเห็นว่ามันไม่ได้มีประโยชน์ เพราะมันเป็นกาน้ำที่แตกเช่นเดียวกับชีวิตมนุษย์เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป”
ศิษย์คนที่สาม “จะเห็นอะไรได้ล่ะท่านอาจารย์ ก็เห็นกาน้ำที่แตก ถ้าท่านทุบมันอีกครั้ง มันก็จะเป็นกาน้ำที่แตกแล้วแตกอีก มันก็เท่านั้นเอง” แล้วศิษย์ทั้งสามและอาจารย์ก็หัวเราะพร้อมกัน
ไม่ว่าบรรดาศิษย์ทั้งสามจะคิดยังไง ก็เกิดเป็นธรรมทั้งสิ้น เป็นธรรมชาติทั้งหมด ศิษย์คนแรกอาจจะคิดในทำนองว่า มันคืออะไรเริ่มต้นยังไง คนที่สองก็คิดเชื่อมโยงกับหลักอนิจจัง คนที่สามนี้มองผิวเผินเหมือนไม่คิดอะไร แท้จริงเขาอาจจะไม่ยึดติดกับอะไรก็ได้