อวยพรปีใหม่... การยกระดับจิตวิญญาณ
สรรพสิ่ง ไม่หยุดนิ่ง วิ่งหมุนวน
สรรพคน ย่อมไหลเลื่อน ล้วนเคลื่อนไหว
สรรพธรรม ไร้ตัวตน อันอำไพ
สรรพใจ ไม่รู้พอ ก่อกรรมเวร
โลกรุ่มร้อน คนเร่งเร้า มัวเมาหนัก
ถ้าผ่อนพัก ค่อยปรับแก้ จึงแลเห็น
ทุกชีวิต ที่เกิดมา ย่อมลำเค็ญ
หลายคนเป็น หลายคนเปลี่ยน หมุนเวียนมา
ขออำนวย อวยพร ตอนปีใหม่
สู่ดวงใจ ไทยด้วยกัน จงหรรษา
พระไตรรัตน์ ช่วยส่งเสริม เติมชีวา
ไร้โรคา สิ้นราคี ปีใหม่เอย.
สรรพคน ย่อมไหลเลื่อน ล้วนเคลื่อนไหว
สรรพธรรม ไร้ตัวตน อันอำไพ
สรรพใจ ไม่รู้พอ ก่อกรรมเวร
โลกรุ่มร้อน คนเร่งเร้า มัวเมาหนัก
ถ้าผ่อนพัก ค่อยปรับแก้ จึงแลเห็น
ทุกชีวิต ที่เกิดมา ย่อมลำเค็ญ
หลายคนเป็น หลายคนเปลี่ยน หมุนเวียนมา
ขออำนวย อวยพร ตอนปีใหม่
สู่ดวงใจ ไทยด้วยกัน จงหรรษา
พระไตรรัตน์ ช่วยส่งเสริม เติมชีวา
ไร้โรคา สิ้นราคี ปีใหม่เอย.
การพัฒนาด้านจิตวิญญาณจะว่ายากก็ยาก จะว่าง่ายก็ง่าย มันขึ้นอยู่กับเรามีความต้องการพัฒนามากน้อยแค่ไหน รู้จักเส้นทางมันดีพอหรือยัง
และมียุทธวิธีที่เหมาะสมไหม หลายคนที่มุ่งมั่นในการปฏิบัติ แต่ไม่สามารถพัฒนาจิตวิญญาณให้สูงขึ้นได้ เพราะขาดความรู้ความเข้าใจดังที่กล่าวมา เริ่มจากกายหยาบหรือกายธาตุ(physical body)ต้องพิจารณาว่ามันมีองค์ประกอบใดบ้าง มาประชุมรวมกันและมองเห็นที่มาของมันคือ"อาหาร"ชั้นต่อมาคือกายทิพย์(astral body)หรืออาทิสมานกาย มีอารมณ์เป็นองค์ประกอบ จะสวยงามหรือไม่สวยงามก็ขึ้นอยู่กับเจ้า"อารมณ์"นี่แหละ ชั้นต่อมาก็คือกายใจ(mental body)มี2ส่วน ส่วนล่างคือ รูป ส่วนบนคือ อรูปหรือนาม หลายคนที่เป็นนักปฏิบัติส่วนมากไปติดอยู่แค่รูป
ที่พูดนี้หมายถึงสมาธิประกอบด้วยปัญญา ไม่ใช่สมาธิ(ความตั้งใจมั่น)อย่างเดียว ตัว"อรูป"นี้คือตัวอุดมคติ ปรัชญา หลักการ หลักธรรมที่ถูกต้องดีงาม อันนักปราชญ์-ผู้รู้สรรเสริญ(ละวางจากอัตตาตัวตน) จากชั้นนี้ก็เข้าสู่กายวิญญาณ(causal body)ซึ่งเป็นชั้นที่ละเอียดมากส่วนในสุดจะเป็นจิตธาตุ(spirit) ใครพัฒนามาถึงจุดไหน อย่างไรก็ลองตรวจสอบตนเองดู..
ของฝากจากหลวงปู่ดูลย์..การเริ่มต้นปฏิบัติวิปัสสนาภาวนา จะเริ่มด้วยวิธีไหนอย่างไรก็ได้
เพราะผลมันเป็นอันเดียวกันอยู่แล้ว ที่ท่านสอนแนวปฏิบัติไว้หลายแบบนั้น เพราะจริตของคนไม่เหมือนกัน จึงต้องมีวัตถุ สี แสง และคำสำหรับ"บริกรรม"เช่น พุทโธ อรหัง...และอื่นๆ เพื่อเป็นสิ่งที่ทำให้จิตรวมอยู่ก่อน เมื่อจิตรวม สงบแล้ว คำบริกรรมก็จะหลุดหายไปเอง แล้วจะดำเนินไปในรอยเดียวกัน รสเดียวกัน คือมีวิมุติเป็นแก่น มีปัญญาเป็นยิ่ง..นำเสนอเพื่อคลายความสงสัยในการปฏิบัติ
ปัญญาภายนอกเป็นเพียงแค่ปัญญาสมมุติ ไม่สามารถทำให้จิตแจ้งในพระนิพพานได้ จะต้องอาศัยปัญญาอริยมรรคจึงจะเข้าถึงพระนิพพานได้ ความรู้ของนักวิทยาศาสตร์เช่น"ไอน์สไตน์"มีความรู้มาก มีความสามารถมาก แยกปรมาณูที่เล็กที่สุด จนเข้าถึงมิติที่4 แต่ไอน์สไตน์ไม่รู้จักพระนิพพาน จึงเข้าพระนิพพานไม่ได้ จิตที่แจ้งในอริยมรรคเท่านั้น จึงเป็นไปเพื่อการตรัสรู้จริง ตรัสรู้ยิ่ง ตรัสรู้พร้อม เป็นไปเพื่อความดับทุกข์ เป็นไปเพื่อนิพพาน..คำปรารภธรรมะของหลวงปู่ดูลย์ อตุโล
ผู้เฒ่าข้างวัด
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
