ข้อดีข้อเสียของวิธีไดเอทแบบล้างพิษ
วิธีไดเอทแบบล้างพิษ นอกจากจะทำให้น้ำหนักลดลงแล้วยังช่วยล้างสารพิษที่สะสมอยู่ตามระบบต่างๆ ในร่างกายออกไปด้วย เพราะเมื่อสารพิษหลุดออกไป ร่างกายก็จะเผาผลาญไขมันได้ดีขึ้น ทำให้ผอมง่ายกว่าเดิม แต่วิธีไดเอทที่ว่านี้ก็มีข้อดีข้อเสียเหมือนกัน
1. Row Food Diet
เคล็ดลับของวิธีนี้คือการกินแต่ของดิบๆ เท่านั้น เช่น ปลาดิบ ผักสดดิบๆ ผลไม้สด โดยอาจจะทำตารางรายการอาหารให้ตัวเองไปเลยว่า มื้อเช้ากินปลาดิบกับสลัดผลไม้ มื้อกลางวันกินสลัดผักจานโตๆ พอมาถึงมื้อเย็นก็กินแต่ผลไม้รวมมิตรหรือถ้าเบื่อผักสดจะใช้วิธีนึ่ง ต้ม หรือตุ๋นก็ได้ แต่ต้องใช้ความร้อนไม่เกิน 100 องศา เพื่อรักษาคุณค่าอาหารของผักเอาไว้
ข้อดี - ได้เส้นใยอาหารสูง ช่วยให้อิ่มท้องนานใกล้เคียงกับการกินข้าว และทำให้ระบบขับถ่ายทำงานดี จึงช่วยขจัดไขมันออกไปได้มาก คนที่ทำวิธีนี้จะรู้สึกว่าผอมลงตั้งแต่สัปดาห์แรกที่ลงมือทำ
ข้อเสีย - รสชาติของอาหารไม่หลากหลาย ทำให้เบื่อง่าย ยิ่งถ้าชอบตระเวณชิมทั่วไทยล่ะก็ ผักดิบๆ จะทำให้คุณเซ็งไปเลย
2. Cleanse Diet
คือการกินอาหารอย่างใดอย่างหนึ่งเพียงเมนูเดียวตลอดวัน เช่น ถ้ากินฝักทองต้มก็ต้องกินฟักทองทั้งวัน วันรุ่งขึ้นกินแกงจืดก็ต้องแกงจืดอย่างเดียว อีกวันกินแอปเปิ้ลก็ต้องแอปเปิ้ลทั้งวัน เอาให้ไขมันสะอื้นไปเลย
ข้อดี - ผอมแน่ๆ ต่อให้คุณเป็นผอมยากขนาดไหน ยังไงๆ วิธีนี้ก็เอาอยู่
ข้อเสีย - ทำยาก และน้ำหนักที่หายไปก็ไม่ใช่ไขมัน แต่เป็นน้ำและกล้ามเนื้อมากกว่า ถ้าไม่ออกกำลังกายร่วมด้วยผิวพรรณจะเหี่ยวอย่างเห็นได้ชัด และถ้ากลับมากินอาหารตามปกติ น้ำหนักก็จะกลับมาใหม่
3. Master Cleanse Diet
คนที่จะไดเอทด้วยวิธีนี้ต้องใจแข็งมากๆ เพราะต้องไม่กินอะไรเลยนอกจากน้ำ ไม่ว่าจะเป็นน้ำเปล่า น้ำเปล่าบีบมะนาว น้ำแกงจืด น้ำผลไม้ และสารพัดน้ำอื่นๆ ตามใจชอบ
ข้อดี - น้ำหนักจะลดลงไป 2-3 กิโลภายในอาทิตย์เดียว แถมยังช่วยล้างสารพิษที่หมักหมมในร่างกายอย่างได้ผลด้วย
ข้อเสีย - ทำยากมากถึงมากที่สุด และสาวๆ จะมีอาการอ่อนเพลีย หงุดหงิด เครียดอยู่ตลอดเวลา ที่สำคัญคือน้ำหนักที่ถูกกำจัดไปนั้นไม่ใช่ไขมัน แต่เป็นแค่น้ำกับกล้ามเนื้อเท่านั้น เมื่อไรที่คุณตบะแตกกลับไปทานอาหารตามปกติ น้ำหนักที่หายใจก็จะดีดตัวกลับมาใหม่ทันที