@ ระวัง . . . อากาศร้อนทำให้ป่วย @

@ ระวัง . . . อากาศร้อนทำให้ป่วย @


อากาศร้อนจัด ร่างกายขาดน้ำ และความเครียดทำให้เป็นลมง่าย บางโรคอาจมีอาการมากขึ้น เช่น โรคไต โรคหัวใจ ไมเกรน หรือลมชัก

     ดาราสาว เจนนิเฟอร์ การ์เนอร์ มีภาวะฮีตสโตรก (Heat Stroke) ถึงสองครั้งระหว่างการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง "The Kingdom" ทั้งนี้ ในช่วงอากาศร้อนจัดและร่างกายปรับตัวไม่ทันก็จะเกิดอาการเป็นลม หน้ามืดวิงเวียน ส่วนฮีตสโตรกมักเกิดกับฝรั่งมากกว่าคนไทย ดังนั้น นพ.อภิชัย พงศ์พัฒนานุรักษ์ อายุรแพทย์โรคหัวใจ โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท จึงได้ไขความกระจ่างเกี่ยวกับโรคที่เกิดขึ้นได้เมื่ออากาศร้อนจัดเพื่อที่เราจะได้เตรียมรับมือกันค่ะ

   Q : อากาศร้อนจัดมีผลกับร่างกายเราอย่างไร

          A : ที่พบบ่อยคือ การเป็นลมอันเนื่องมาจากอุณหภูมิสูง ซึ่งเป็นอาการธรรมดาที่เราเห็นๆ กัน เช่น ยืนกลางแดดจ้าแล้วเป็นลม หรืออีกอาการหนึ่งที่มักพบในฝรั่งก็คือฮีตสโตรก ซึ่งมีอาการรุนแรงกว่าลมแดด

   Q : สัญญาณที่บอกว่าจะเป็นลมมีอาการอย่างไร

         A : เริ่มด้วยอาการหน้ามืด ตาพร่ามัว คลื่นไส้ อาเจียน และก็เป็นลม ตื่นขึ้นมาก็จำความได้ แขนขาไม่อ่อนแรงไม่มีอุจจาระหรือปัสสาวะราด นี่คืออาการเป็นลมทั่วๆ ไป ไม่มีอันตราย

   Q : สาเหตุที่ทำให้เป็นลม

          A : เกิดขึ้นเนื่องจากร่างกายขาดน้ำอันเนื่องมาจากอากาศร้อน ร่างกายสูญเสียเหงื่อมาก แล้วมีสภาวะเครียดที่ไปกระตุ้นให้หัวใจต้องบีบตัวรุนแรงขึ้น มันก็จะกระตุ้นระบบประสาทอัตโนมัติบางอย่างในร่างกายเราส่งผลให้หลอดเลือดขยายตัวทันที ก็เลยทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ ทำให้เป็นลม หรือการนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ กินไม่ได้ และมีเรื่องสะเทือนใจทันทีก็ทำให้เป็นลม หรืออยู่ในที่กลางแจ้งแล้วร่างกายขาดน้ำประกอบกับร่างกายเกิดความเครียดขึ้นมาก็ทำให้หัวใจบีบตัวแรง ก็เป็นลมได้เช่นกัน

   Q : การเป็นลมมีอันตรายมากน้อยแค่ไหน

         A : การเป็นลมธรรมดาไม่อันตราย ยกเว้นแต่ว่าเป็นลมแล้วล้มหัวกระแทกพื้น อาจทำให้ศีรษะแตกหรือกระดูกคอแตกได้ คือเป็นลมแล้วเกิดอุบัติเหตุนั่นเอง

   Q : เราจะป้องกันอุบัติเหตุจากการเป็นลมได้อย่างไร

         A : อาการนำของการเป็นลมก็คือ จะรู้สึกคลื่นไส้ตามมาด้วยตาพร่ามัว หากมีอาการดังกล่าวก็ให้ทรุดตัวลงนั่งทันที และหากอาการตาพร่ามัวยังไม่ดีขึ้นก็ให้นอนราบกับพื้นประมาณ 10-15 นาที ถ้าเป็นไปได้ควรให้คนพยุงไปในที่ร่ม หรือถ้ายังไม่หมดสติก็พยายามดื่มน้ำให้มาก อาการจะดีขึ้นอย่างรวดเร็ว


   Q : แล้วภาวะฮีตสโตรกเกิดขึ้นได้อย่างไร

           A : เกิดจากภาวะอุณหภูมิในร่างกายสูงมากเกินไปและทำให้อุณหภูมิที่วัดจากปรอทสูงไปด้วย ซึ่งไม่ใช่อาการเป็นไข้ แต่มันเป็นภาวะที่ร่างกายเสียสมดุลอันเนื่องมาจากอุณหภูมิภายนอกสูงเกินไป แล้วร่างกายปรับตัวไม่ทัน คนไทยมักไม่เกิดภาวะฮีตสโตรกเพราะเราอยู่ในเขตร้อน ร่างกายชินกับอากาศร้อนและเรามีต่อมเหงื่อที่พัฒนาสำหรับอากาศแบบนี้โดยการระบายความร้อนได้ทันที แต่ฝรั่งที่ไม่คุ้นชินกับอากาศร้อนๆ เพราะอยู่ในประเทศที่มีอากาศหนาวและมีต่อมเหงื่อน้อยกว่า เมื่อมาอยู่ในที่ที่มีอากาศร้อนก็ส่งผลให้ร่างกายระบายความร้อนไม่ทัน ทำให้กล้ามเนื้อตาย ของเสียที่เกิดจากการตายของกล้ามเนื้อเป็นอันตรายกับไต จะทำให้ปัสสาวะเป็นเลือดทำให้เสียเลือดและไตวายฉับพลัน ความดันโลหิตตก อาจมีอาการชัก นอกจากนี้ ของเสียที่เกิดขึ้นก็จะทำให้คนไข้หมดสตินาน เข้าขั้นโคม่า ทำให้เสียชีวิตได้

   Q : คนที่มีโรคประจำตัวประเภทไตต้องระวังในหน้าร้อน

         A : ที่พบบ่อยคือ โรคปวดหัวไมเกรน คือไมเกรนเป็นอาการปวดศีรษะอันเนื่องมาจากหลอดเลือดที่สมองขยายตัวมากกว่าปกติ เมื่ออากาศร้อนจะทำให้หลอดเลือดขยายตัวก็จะปวดศีรษะมากขึ้น นอกจากนี้ก็มีโรคลมชัก คือถ้าร่างกายไม่สบายมาก รวมทั้งอยู่ในที่ที่อุณหภูมิสูงมากๆ จะทำให้คนไข้ชักได้ หรือผู้ที่มีภาวะไตวายอยู่แล้ว นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ ร่างกายสูญเสียน้ำมาก ส่งผลให้ปริมาณของน้ำในเลือดลดลง เลือดไปเลี้ยงไตลดลง ส่งผลให้การทำงานของไตแย่ลงไปด้วย จึงต้องดื่มน้ำให้มากๆ ในหน้าร้อน

   Q : ผู้ที่เป็นโรคไตวายสามารถดื่มน้ำได้มากหรือเปล่า

         A : ไตวายมีสองชนิด คือไตวายที่ปัสสาวะออกกับไตวายที่ปัสสาวะออกไม่ได้ คือถ้าเป็นไตวายที่ปัสสาวะออกไม่ได้แล้วต้องล้างไตด้วย ห้ามดื่มน้ำมาก แต่ในกลุ่มที่เป็นภาวะไตวายแบบที่มีปัสสาวะออกดีอยู่ต้องดื่มน้ำให้เพียงพอในหน้าร้อน

   Q : อากาศร้อนมากจะมีผลกระทบกับคนไข้โรคหัวใจมั้ยคะ

         A : ในกรณีของผู้ที่เป็นโรคหัวใจ ถ้ามีการสูญเสียเหงื่อจะทำให้มีน้ำท่วมปอดน้อยลงซึ่งเป็นผลดี แต่ผลเสียก็คือ อากาศร้อนๆ อาจไปกระตุ้นให้ร่างกายอ่อนเพลียแล้วทำให้เป็นลมง่าย เมื่อเป็นลมก็ทำให้ความดันตกส่งผลให้เส้นเลือดตีบและมีอาการแย่ลงได้ ผู้ป่วยโรคหัวใจควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ที่มีอากาศร้อนจัด

   Q : แล้วอากาศร้อนทำให้คนเป็นตะคริวได้ง่ายมั้ย

         A : คนที่เป็นตะคริวมี 3 สาเหตุหลัก คือ มีโพแทสเซียมในเลือดต่ำ มีฮอร์โมนธัยรอยด์ต่ำ และมีการกดทับของเส้นประสาทที่ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อมัดนั้นๆ โดยส่วนมากแล้วมักเกิดจากการมีโพแทสเซียมต่ำ หรือเกิดจากการสูญเสียเกลือแร่ในร่างกาย เช่น ท้องเสียมาก เสียเหงื่อมากเกินไป ก็จะเป็นตะคริวได้บ่อยขึ้นในช่วงหน้าร้อน

   Q : คนวัยใดต้องระวังเรื่องสุขภาพในหน้าร้อนเป็นพิเศษ

         A : แน่นอนว่าต้องเป็นคนชรา เพราะระบบไม่เหมือนคนหนุ่มสาว โดยเฉพาะคนชราที่มีปัญหาของสมอง เช่น โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต โรคอัลไซเมอร์ หลอดเลือดในสมองตีบ คนกลุ่มนี้จะพูดบอกกับเราได้ไม่ตรงตามความต้องการ เมื่ออากาศร้อนมากเราก็ต้องดูแลคนชรากลุ่มนี้เป็นพิเศษ เช่น ให้บ้านมีที่ระบายลมออกได้เพียงพอ หรืออย่างน้อยที่สุดต้องเป่าพัดลมเพื่อให้อากาศหมุนเวียน โดยไม่ต้องเป่าพัดลมไปที่คนไข้ หรือถ้ามีแอร์ควบคุมอุณหภูมิได้ก็จะดี คือคนที่เป็นโรคชราและเป็นโรคสมองด้วย เขาจะบอกเราไม่ได้ ฉะนั้น เราก็ต้องจัดเตรียมสถานที่ให้เหมาะสมในฤดูร้อน

   Q : แล้วการออกกำลังกายในหน้าร้อนต้องระวังอย่างไร

          A : การออกกำลังกายในช่วงอุณหภูมิสูงก็มีโอกาสเป็นลมง่ายขึ้น ควรออกกำลังกายในยิมจะดีกว่าเพราะจะทำให้เราทนต่อการออกกำลังกายได้มากขึ้น หรือออกกำลังกายในช่วงเช้าหรือช่วงเย็นก็ได้ และควรพกน้ำแร่ไปดื่มเพื่อชดเชยกับการสูญเสียเหงื่อด้วย 

        ข้อควรรู้ อากาศร้อน . . . ดูแลตัวเองอย่างไรดี    

     การป้องกันไมเกรนกำเริบในหน้าร้อนก็คือหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ที่มีอุณหภูมิสูง นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ หากมีอาการไมเกรนมากในช่วงหน้าร้อนก็ควรกินยาป้องกันเสียก่อน

     อากาศร้อนจัด ควรดื่มน้ำให้เพียงพอวันละประมาณ 2-3 ลิตร อาจเป็นน้ำเปล่า น้ำแร่ ชาสมุนไพร หรือน้ำผลไม้ผสมน้ำ แต่ไม่ควรดื่มน้ำเย็นจัดเพราะจะทำให้เหงื่อออกมากขึ้น นอกจากนี้ไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์ในหน้าร้อนเพราะจะทำให้ร่ายกายสูญเสียน้ำมากยิ่งขึ้น และการที่ร่างกายขับเหงื่อออกไปมากก็มีแร่ธาตุต่างๆ ปนออกไปกับเหงื่อด้วย

     รังสียูวีปริมาณสูงในหน้าร้อนจะส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายอ่อนแอลง ซึ่งจะทำให้เป็นโรคติดเชื้อได้ง่าย ดังนั้นจึงไม่ควรสวมใส่เสื้อผ้าชื้นเหงื่อเป็นเวลานาน ส่วนผู้ที่ออกกำลังกายก็ควรผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าทันทีเพื่อป้องกันโรคติดเชื้อหรือเชื้อราที่เกิดขึ้นได้ในที่อับชื้น 

    ข้อแนะนำจาก นพ.อภิชัย พงศ์พัฒนานุรักษ์  

     อุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงไปก็มีผลต่อสุขภาพโดยรวม อะไรก็ตามที่ไม่เหมาะสมหรือมีอาการมากๆ ก็ทำให้ร่างกายเสียสมดุลได้ เรื่องการออกกำลังกายควรออกกำลังในยิมที่มีอุณหภูมิเหมาะสมก็น่าจะดีกว่า แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็ออกกำลังกายในที่ที่แดดไม่จัดและพกน้ำไปด้วย ส่วนผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรงดีก็ควรใส่ใจดูแลตัวเองให้มากขึ้น โดยการรับประทานผักและผลไม้ให้มากเพื่อเติมวิตามินและเกลือแร่ให้แก่ร่างกายในการต่อสู้กับอนุมูลอิสระ

FW

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์