คุณเชื่อ....หรือไม่ ว่าผึ้งสามารถรู้จำใบหน้ามนุษย์ได้
การศึกษาค้นคว้าชิ้นหนึ่งได้ค้นพบว่า บรรดาผึ้งทั้งหลายนั้นสามารถรู้จำใบหน้าของมนุษย์ได้จากภาพถ่าย และสามารถจำได้นานเป็นเวลาอย่างน้อย 2 วันเลยทีเดียว
การค้นพบดังกล่าวนี้ได้สลัดทิ้งความคลุมเครือทั้งหลายเกี่ยวกับคำถามที่ได้มีการศึกษาค้นคว้ามาอย่างยาวนานว่า ผึ้งนั้นมีความสามารถในการรู้จำใบหน้าของมนุษย์ได้เช่นเดียวกับความสามารถเช่นเดียวกันนี้ของมนุษย์ได้หรือไม่
นักวิทยาศาสตร์กล่าวเสริมว่า จากผลการค้นพบนี้อาจช่วยในการพัฒนาซอฟต์แวร์รู้จำใบหน้า (face–recognition software) รวมทั้งการศึกษาเจาะลึกไปถึงสมองของแมลงต่างๆ นักวิจัยส่วนใหญ่เชื่อกันมานานแล้วว่า การรู้จำใบหน้านั้นต้องการสมองที่มีขนาดใหญ่ รวมทั้งบริเวณที่จำเพาะในสมองเพื่อการประมวลผลข้อมูลใบหน้าด้วย ซึ่งเอเดรียน จี. ไดเออร์ (Adrian G. Dyer) หัวหน้าคณะผู้วิจัยงานชิ้นนี้กล่าวว่า การค้นพบนี้เป็นการขจัดข้อสงสัยไปจนหมดสิ้น
เขาเล่าว่า เมื่อเขาได้ค้นพบข้อมูลนี้แล้ว เขารู้สึกตกตะลึงเป็นอย่างมากถึงกับตะโกนบอกเพื่อนร่วมงานของเขาให้มาพบเขาโดยเร็ว เนื่องจากว่า “คงไม่มีใครเชื่อแน่ๆ เพราะฉะนั้นให้นำกล้องถ่ายรูปติดตัวมาด้วย!!”
ไดเออร์กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า นี่เป็นครั้งแรกที่เราพบว่าสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง (invertebrate) จะมีความสามารถในการรู้จำใบหน้าของสิ่งมีชีวิตในสปีชี่ส์อื่นๆ แต่ว่าไม่ใช่ผึ้งทุกชนิดที่จะมีความสามารถดังกล่าว ในหลายกรณี มนุษย์เราไม่สามารถที่จะรู้จำใบหน้าได้ ซึ่งไดเออร์ให้ข้อสังเกตไว้ว่า ภาวะเช่นนี้เรียกว่า prosopagnosia
ในการศึกษากับผึ้ง ซึ่งจะถูกรายงานไว้ใน Journal of Experimental Biology ฉบับวันที่ 15 ธันวาคมนั้น
ไดเออร์กับผู้ร่วมงานอีก 2 ท่านจะนำเสนอผึ้งกับภาพถ่ายใบหน้ามนุษย์จำนวนหนึ่งซึ่งได้มาจากแบบทดสอบมาตรฐานเกี่ยวกับจิตวิทยาของมนุษย์ ภาพถ่ายเหล่านี้จะมีความสว่าง สีของฉากหลัง ตลอดจนขนาดที่ใกล้เคียงกัน และรวมถึงให้มีเฉพาะภาพใบหน้าและช่วงคอเท่านั้น เพื่อหลีกเลี่ยงการที่บรรดาผึ้งที่นำมาทดลองนั้นจะตัดสินจากเสื้อผ้า ในบางกรณี คนที่ปรากฏอยู่ในภาพถ่ายนั้นมีความคล้ายคลึงกับตัวจริงเป็นอย่างมาก
คณะนักวิจัยร่วมกับมหาวิทยาลัยโยฮันน์ กูเตนเบิร์ก (Johannes Gutenberg University) ในประเทศเยอรมนี พยายามที่จะฝึกหัดบรรดาผึ้งในการรู้จำว่า ภาพถ่ายใบหน้าคนมีหยดของเหลวที่ละลายด้วยน้ำตาลเอาไว้ใกล้ๆ กัน จากนั้นรูปภาพอีกชุดหนึ่งที่แตกต่างกันจะถูกนำมาแทนที่หยดของเหลวดังกล่าว
ผึ้งจำนวนหนึ่งประสบความล้มเหลวในการรู้จำว่า
พวกมันควรให้วามสนใจไปยังภาพถ่ายเท่านั้น ไดเออร์รายงานว่า แต่ทว่ามีผึ้งจำนวน 5 ตัว เรียนรู้ที่จะบินวนไปมาใกล้ๆ ภาพถ่ายในแนวนอน ในมุมมองที่เหมาะสมกับการจ้องมองที่ภาพถ่ายนั้น ในความเป็นจริงแล้ว ผึ้งเหล่านั้นมีแนวโน้มที่จะบินวนไปวนมาในระดับไม่กี่เซนติเมตรทางด้านหน้าของภาพถ่ายในชั่วขณะหนึ่งก่อนที่จะ “ร่อนลง” ไปเกาะบนภาพถ่ายนั้น
คณะผู้วิจัยค้นพบว่า บรรดาผึ้งเรียนรู้ที่จะแยกความแตกต่างระหว่างใบหน้าที่ถูกต้องออกจากใบหน้าที่ผิดด้วยความแม่นยำสูงถึงร้อยละ 80 ถึงแม้ว่าใบหน้าพวกนั้นจะมีความคล้ายคลึงกันมากก็ตาม และไม่ได้พิจารณาถึงว่าภาพถ่ายนั้นถูกวางไว้ในตำแหน่งใด แต่กระบวนการรู้จำใบหน้าของผึ้งนี้ก็คล้ายๆ กับมนุษย์ในแง่ที่ว่า ถ้าภาพถ่ายนั้นถูกพลิกแบบกลับหัวกลับหางก็จะไม่สามารถระบุได้อย่างถูกต้อง
คณะผู้วิจัยระบุไว้ในรายงานการค้นพบว่า “นี่เป็นหลักฐานว่า การรู้จำใบหน้านั้นจำเป็นต้องมีทั้งส่วนจำเพาะในสมองและระบบประสาทขั้นสูงเป็นพื้นฐานที่สำคัญ” และเป็นที่น่าสังเกตว่าการทดลองนี้ก็เป็นการทดลองชุดเดียวกับที่ใช้ในคนที่มีความผิดปกติในการรู้จำด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาระบุด้วยว่า
“ผึ้งจำนวน 2 ตัวซึ่งถูกทดสอบมาแล้วเป็นเวลา 2 วันแล้วยังคงจดจำข้อมูลไว้ในหน่วยความจำระยะยาวได้” ผึ้งตัวหนึ่งถูกให้คะแนนไว้ที่ร้อยละ 94 ในวันแรก และร้อยละ 79 ในวันที่สอง ส่วนผึ้งอีกตัวหนึ่งนั้นมีคะแนนตกลงไปจากร้อยละ 87 เหลือเพียงร้อยละ 76 ในช่วงเวลาเดียวกัน
นอกจากนั้น คณะผู้วิจัยยังได้ตรวจสอบว่าบรรดาผึ้งจะมีความสามารถในการรู้จำได้ดีกว่าสำหรับใบหน้าคนที่ได้รับการพิจารณามาแล้วว่ามีความแตกต่างกันมากๆ พวกเขาค้นพบว่า นี่ดูเหมือนว่าจะเป็นอีกกรณีหนึ่ง แต่ผลลัพธ์นั้นก็ไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ (statistical significance) แต่อย่างใด
ไดเออร์เขียนในอีเมล์ว่า บรรดาผึ้งนั้นดูเหมือนจะไม่เข้าใจใบหน้าของมนุษย์นั้นคืออะไร เขากล่าวเสริมว่า “สำหรับบรรดาผึ้งนั้น ใบหน้าเป็นรูปแบบเชิงมิติ (spatial patterns) หรือเป็นของแปลกประหลาดที่คล้ายๆ กับดอกไม้”
ผึ้งนั้นเป็นที่รู้จักกันในแง่ความสามารถในการรู้จำรูปแบบ (pattern–recognition abilities) ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่ามันถูกพัฒนาขึ้นเพื่อที่จำแนกความแตกต่างระหว่างดอกไม้ สำหรับแมลงซึ่งอยู่ร่วมกันเป็นสังคมนั้นก็ใช้ในการจำแนกพวกที่อยู่ในรังเดียวกันได้ แต่ในการศึกษาครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า พวกมันสามารถรู้จำใบหน้าของมนุษย์ได้ดีกว่าที่มนุษย์จะทำได้ด้วยจำนวนเซลล์สมองในอัตราส่วน 1 ต่อ 10,000 เลยทีเดียว
World-Science