อย่าปล่อยให้โรคนอนไม่หลับคุกคาม
พอนอนไม่หลับติดต่อกันนานๆเข้ามันจะส่งผลเสียต่อสุขภาพ ทางที่ดีมองหาวิธีหลีกเลี่ยงอาการนอนไม่หลับเพื่อบำบัดความเครียดดีกว่า
Do! งดกาแฟ บุหรี่ และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด อย่างที่รู้กันดีว่าสิ่งต่างๆเหล่านี้ล้วนกระตุ้นสมอง ทำให้สมองตื่นตัวเกินระดับปกติ หลายคนคงจะชินกับอาการตาค้าง ที่แม้ว่าจะง่วงแสนง่วง แต่ก็ข่มตาหลับไม่ได้สักที เพราะฉะนั้นจงหยุดซะ เพราะนอกจากจะทำให้นอนไม่หลับแล้ว ยังทำให้แก่เร็วอีกต่างหาก
Do!หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่ท้าทายหรือใช้ความคิดก่อนเข้านอน เพราะการใช้ความคิดมากๆจะทำให้สมองตื่นตัว ยิ่งคิดมากเท่าไร สมองยิ่งทำงานหนักมากเท่านั้น เผลอๆคิดไม่ตกดันเอาขึ้นเตียงนอนไปซะด้วยเลย คราวนี้ก็นอนตาแป๋วคิดไปทั้งคืนนั่นแหละ วิธีที่ดีที่สุดคือการทำสมาธิก่อนเข้านอน ทำสมองให้ว่างเปล่าที่สุด ทิ้งทุกอย่างลงไว้ข้างเตียง แล้วค่อยว่ากันใหม่
Do! กินอาหารให้ตรงเวลา งดกินจุบจิบ ข้อนี้สำคัญมาก หลายคนมักจะบอกว่า "พอหนังท้องตึง หนังตาก็เริ่มหย่อน" แต่นั่นใช้ไม่ได้กับเวลากลางคืนนะ เพราะยิ่งดึก ยิ่งกิน ตายิ่งสว่าง ทางที่ดีควรกินอาหารให้ตรงเวลา ถ้าก่อนนอนรู้สึกหิวขึ้นมา ให้รองท้องด้วยนมอุ่นๆหรือน้ำเย็นๆสักแก้ว จะทำให้สดชื่นและนอนหลับสบาย
Do! ผ่อนคลายร่างกายทุกส่วน รวมทั้งจิตใจด้วย การทำโยคะอย่างง่ายถือเป็นทางเลือกที่ดี การหายใจถูกต้องตามหลักอาสนะจะช่วยทำให้เกิดความสมดุลทั้งภายในและภายนอก ส่งผลให้เกิดสมาธิและจิตที่สงบนิ่ง นอกจากจะช่วยลดความเครียดแล้วยังช่วยทำให้นอนหลับได้ง่ายขึ้นด้วย
Do! สร้างบรรยากาศภายในห้องนอน บรรยากาศที่เหมาะกับการพักผ่อนมากที่สุดคือ ห้องที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก ไม่ร้อนหรือหนาวเกินไป และที่สำคัญต้องสงบ ไม่มีเสียงรบกวน และไม่สว่างจ้าจนแสบตา
Dont'! อย่าดูโทรทัศน์หรืออ่านหนังสือบนเตียงนอน การอ่านหนังสือก่อนนอนทำให้ง่วงก็จริง แต่การอ่านบนที่นอนหรืออบริเวณที่เราใช้นอนเป็นประจำจะทำให้เราเกิดความเคยชิน ยิ่งถ้าเราใช้เวลาบนเตียงปุ๊บก็จะนอนไม่หลับทันที ทางที่ดีควรนั่งอ่านบนเก้าอี้หรือโซฟาให้พอรู้สึกง่วงแล้วค่อยมานอนหลับบนเตียงจะดีกว่า
ข้อเท็จจริง
โรคนอนไม่หลับ (Insomania) สามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย รายงานจากการศึกษาค้นคว้าเมื่อไม่นานมานี้ได้กล่าวว่าเด็กจำนวน 1 ใน 5 คนมีอาการของโรคนอนไม่หลับ 45% ของคนวัยทำงานมักจะเกิดอาการนอนหลับยากอันเนื่องมาจากความเครียด และมากกว่า 14% เคยมีการใช้ยานอนหลับ อาการโดยทั่วไปของโรคนี้มักจะหลับยากหรือหลับๆตื่นๆตลอดทั้งคืน บางรายก็จะตื่นขึ้นมาเร็วกว่าปกติทำให้เกิดอาการอ่อนเพลียเนื่องจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ
สาเหตุ
1. เกิดเหตุการณ์ตึงเครียดบางอย่าง
2. ปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพจิต
3. อาการเจ็บป่วย
4. ความเศร้าโศก หรือไม่สบายใจ
5. การถูกรบกวนจากสภาวะบางอย่าง เช่น เสียงดัง การไม่คุ้นเคยกับสถานที่ หรือการเปลี่ยนพฤติกรรมการนอน
Do! งดกาแฟ บุหรี่ และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด อย่างที่รู้กันดีว่าสิ่งต่างๆเหล่านี้ล้วนกระตุ้นสมอง ทำให้สมองตื่นตัวเกินระดับปกติ หลายคนคงจะชินกับอาการตาค้าง ที่แม้ว่าจะง่วงแสนง่วง แต่ก็ข่มตาหลับไม่ได้สักที เพราะฉะนั้นจงหยุดซะ เพราะนอกจากจะทำให้นอนไม่หลับแล้ว ยังทำให้แก่เร็วอีกต่างหาก
Do!หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่ท้าทายหรือใช้ความคิดก่อนเข้านอน เพราะการใช้ความคิดมากๆจะทำให้สมองตื่นตัว ยิ่งคิดมากเท่าไร สมองยิ่งทำงานหนักมากเท่านั้น เผลอๆคิดไม่ตกดันเอาขึ้นเตียงนอนไปซะด้วยเลย คราวนี้ก็นอนตาแป๋วคิดไปทั้งคืนนั่นแหละ วิธีที่ดีที่สุดคือการทำสมาธิก่อนเข้านอน ทำสมองให้ว่างเปล่าที่สุด ทิ้งทุกอย่างลงไว้ข้างเตียง แล้วค่อยว่ากันใหม่
Do! กินอาหารให้ตรงเวลา งดกินจุบจิบ ข้อนี้สำคัญมาก หลายคนมักจะบอกว่า "พอหนังท้องตึง หนังตาก็เริ่มหย่อน" แต่นั่นใช้ไม่ได้กับเวลากลางคืนนะ เพราะยิ่งดึก ยิ่งกิน ตายิ่งสว่าง ทางที่ดีควรกินอาหารให้ตรงเวลา ถ้าก่อนนอนรู้สึกหิวขึ้นมา ให้รองท้องด้วยนมอุ่นๆหรือน้ำเย็นๆสักแก้ว จะทำให้สดชื่นและนอนหลับสบาย
Do! ผ่อนคลายร่างกายทุกส่วน รวมทั้งจิตใจด้วย การทำโยคะอย่างง่ายถือเป็นทางเลือกที่ดี การหายใจถูกต้องตามหลักอาสนะจะช่วยทำให้เกิดความสมดุลทั้งภายในและภายนอก ส่งผลให้เกิดสมาธิและจิตที่สงบนิ่ง นอกจากจะช่วยลดความเครียดแล้วยังช่วยทำให้นอนหลับได้ง่ายขึ้นด้วย
Do! สร้างบรรยากาศภายในห้องนอน บรรยากาศที่เหมาะกับการพักผ่อนมากที่สุดคือ ห้องที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก ไม่ร้อนหรือหนาวเกินไป และที่สำคัญต้องสงบ ไม่มีเสียงรบกวน และไม่สว่างจ้าจนแสบตา
Dont'! อย่าดูโทรทัศน์หรืออ่านหนังสือบนเตียงนอน การอ่านหนังสือก่อนนอนทำให้ง่วงก็จริง แต่การอ่านบนที่นอนหรืออบริเวณที่เราใช้นอนเป็นประจำจะทำให้เราเกิดความเคยชิน ยิ่งถ้าเราใช้เวลาบนเตียงปุ๊บก็จะนอนไม่หลับทันที ทางที่ดีควรนั่งอ่านบนเก้าอี้หรือโซฟาให้พอรู้สึกง่วงแล้วค่อยมานอนหลับบนเตียงจะดีกว่า
ข้อเท็จจริง
โรคนอนไม่หลับ (Insomania) สามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย รายงานจากการศึกษาค้นคว้าเมื่อไม่นานมานี้ได้กล่าวว่าเด็กจำนวน 1 ใน 5 คนมีอาการของโรคนอนไม่หลับ 45% ของคนวัยทำงานมักจะเกิดอาการนอนหลับยากอันเนื่องมาจากความเครียด และมากกว่า 14% เคยมีการใช้ยานอนหลับ อาการโดยทั่วไปของโรคนี้มักจะหลับยากหรือหลับๆตื่นๆตลอดทั้งคืน บางรายก็จะตื่นขึ้นมาเร็วกว่าปกติทำให้เกิดอาการอ่อนเพลียเนื่องจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ
สาเหตุ
1. เกิดเหตุการณ์ตึงเครียดบางอย่าง
2. ปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพจิต
3. อาการเจ็บป่วย
4. ความเศร้าโศก หรือไม่สบายใจ
5. การถูกรบกวนจากสภาวะบางอย่าง เช่น เสียงดัง การไม่คุ้นเคยกับสถานที่ หรือการเปลี่ยนพฤติกรรมการนอน
ขอขอบคุณสาระดีดี จาก
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!