เพาะตัวอ่อนครึ่งคนครึ่งสัตว์ขึ้นได้ เลี้ยงไว้เพื่อหา ทางรักษาโรค 3 วัน
นักวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยนิวคาสเซิลของอังกฤษ ได้เพาะตัวอ่อนครึ่งมนุษย์ครึ่งสัตว์
ขึ้นได้เป็นครั้งแรกของประเทศ ในการวิจัยทางการแพทย์เพื่อหาวิธีรักษาโรคต่างๆ สามารถมีชีวิตอยู่มาได้นานถึง 3 วัน ซึ่งตามกฎหมายจะเลี้ยงเอาไว้ได้ไม่เกิน 14 วัน และมีขนาดโตเท่าหัวเข็มหมุดเท่านั้น
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อส่องดูด้วยกล้องจุลทรรศน์จะเห็นเป็นพวงมาลัยของเซลส์ ซึ่งเหมือนกับของทารกตัวอ่อนอายุ 3 วัน อื่นๆ นักวิจัยได้เพาะขึ้น โดยฝังดีเอ็นเอที่เอามาจากเซลส์ผิวหนังคน เข้าไปในไข่ซึ่งได้มาจากรังไข่ แม่วัว ที่ถูกควักเอาวัตถุพันธุกรรมออกจนเกลี้ยง ศาสตราจารย์จอห์น เบิร์น หัวหน้าสถาบันพันธุกรรมมนุษย์ มหาวิทยาลัยอ้างว่า เหตุที่ต้องใช้ไข่ของสัตว์แทน เพราะของมนุษย์หายาก พร้อมกับแจ้งว่า “ขั้นต่อไปจะต้องเลี้ยงให้รอดอยู่นานถึง 6 วัน จึงจะสามารถแยกเอาเซลส์ต้นกำเนิดออกมาได้”
ทางศาสนาคาทอลิกของอังกฤษได้เคยกล่าวประณามการกระทำแบบนี้ว่า “เป็นการทดลองตามสัดส่วนของแฟรงเกนสไตน์” แต่ด้านนักวิทยาศาสตร์ก็โต้ว่าเป็นการจำเป็น ในการหาวิธีการรักษาโรคอย่างสมองเสื่อมและอัมพาตแบบสั่น.