“กวาวเครือแดง” จากยาสู่สินค้าเพื่อสุขภาพ (1) ชายไทย “เสื่อม” เร็วต้องหันพึ่งยา
http://my-butea.blogspot.com/สภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะความสัมพันธ์ในครอบครัว ไม่น่าเชื่อว่านี่จะกลายเป็นมูลเหตุหลักที่ทำให้เป็นที่มาของ “ความเสื่อมสมรรถภาพ” ในเพศชาย
ผลการวิจัยในอดีตพบว่า เพศชายจะตกอยู่ในภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศเมื่อมีอายุตั้งแต่ 50-60 ปีขึ้น ทว่าในปัจจุบันภาวะนี้กลับเกิดกับชายที่เพิ่งผ่านวัยเจริญพันธุ์มาได้ไม่นานนัก
โดยสถิติล่าสุดพบว่า ชายไทยต้องตกอยู่ในภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศด้วยวัยเพียง 38-40 ปีเป็นต้นไป !!!
จึงไม่น่าแปลกใจที่สินค้าอย่างยาชูกำลังเพิ่มพลังทางเพศต่าง ๆ ที่ได้รับความนิยมในต่างประเทศ จะได้รับความนิยมในไทยไปด้วย
แต่ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นจากการใช้ยา ซึ่งมักจะให้ผลแบบฉับพลันนั้น เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้ที่มีโรคอื่น ๆ อย่างเบาหวานและโรคหัวใจไม่สามารถใช้ยาชนิดที่ว่าได้ เพราะอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต การค้นหาวิธีการที่ปลอดภัยและได้ผลกว่าจึงน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด
สรรพคุณที่ช่วยกระตุ้นให้สมรรถภาพทางเพศของผู้ชายกลับคืนมาในพืชสมุนไพรไทย อย่างกวาวเครือแดง เรียกได้ว่าเป็นแสงสว่างที่มาช่วยชุบชีวิตประกอบกับกระแสการย้อนคืนสู่วิถีธรรมชาติ ยิ่งส่งผลให้สมุนไพรไม้เลื้อยที่มีประโยชน์อยู่ตรงหัวที่ฝังอยู่ใต้ดินได้รับความสนใจ
กวาวเครือแดงเป็นพืชสมุนไพรที่มีฮอร์โมนเพศชายอยู่มาก ซึ่งมีคุณสมบัติในการช่วยซ่อมแซมอวัยวะส่วนที่สึกหรอให้ฟื้นคืน ทั้งยังทำให้โลหิตหมุนเวียนได้ดี แก้อาการปวดเมื่อยอ่อนเพลีย กระตุ้นหัวใจให้สูบฉีดโลหิตแรงขึ้น จึงมีการนำไปใช้รักษาโรคหัวใจบางชนิดด้วย
แต่สรรพคุณทางด้านการช่วยฟื้นฟูสมรรถภาพทางเพศเป็นคุณสมบัติที่ทำให้กวาวเครือแดงได้รับความสนใจมากที่สุด
ทว่าผลทางด้านพิษที่มีแฝงอยู่จึงทำให้การนำกวาวเครือแดงมาใช้ประโยชน์ในการกระตุ้นไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าที่ควร
เพราะหากมีการรับประทานในปริมาณที่มากเกินไป จะทำให้เยื่อหุ้มอัณฑะหนาตัวขึ้นและอาจนำไปสู่การเป็นเนื้องอกหรือมะเร็งได้ในที่สุด
เช่นเดียวกับอาการข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นหากรับประทานไป 3-4 วัน จะปวดครั่นเนื้อครั่นตัวที่เอวและข้อต่อทุกแห่ง
ขณะที่พืชสมุนไพรตระกูลเดียวกันอย่างกวาวเครือขาวซึ่งเหมาะสำหรับเพศหญิงที่ไม่มีพิษ กลับได้รับความนิยมมากกว่า
โดยนอกจากจะออกมาในรูปแบบแคปซูลสำหรับรับประทานแล้ว ครีมที่มีส่วนผสมของกวาวเครือขาวซึ่งช่วยให้หน้าอกเต่งตึงสวยงามเป็นธรรมชาติยังกลายเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยม ไม่เฉพาะในไทยแต่ยังขยายไปถึงประเทศจีนซึ่งเป็นเจ้าตำรับสมุนไพรอันดับต้น ๆ
การนำกวาวเครือแดงมาใช้ในรูปแบบของครีมเช่นเดียวกับกวาวเครือขาว จึงน่าจะเป็นทางออกที่ปลอดภัยกว่า
รศ.ดร.วิชัย เชิดชีวศาสตร์ นักวิจัยกวาวเครืออันดับหนึ่งของประเทศไทย ระบุว่า ได้พบเจอการใช้กวาวเครือครั้งแรกที่พุกาม ประเทศพม่า ซึ่งจะใช้ในรูปแบบการผสมไว้ในยาลูกกลอน จึงกลับมาค้นคว้าเกี่ยวกับการใช้กวาวเครือในประเทศไทยบ้าง
และพบว่าในช่วงปี 2486-2490 มีการสกัดกวาวเครือขาวมาใช้รักษาหญิงที่มีปัญหาทางด้านฮอร์โมนในโรงพยาบาลศิริราชมาก่อน แต่จู่ ๆ การใช้พืชสมุนไพรชนิดนี้ก็หายไปเมื่อการแพทย์สมัยใหม่เข้ามาแทนที่ ขณะที่กวาวเครือแดงเองก็ไม่ได้รับความนิยม
หลังประสบความสำเร็จจากครีมที่มีส่วนผสมกวาวเครือขาว รศ.ดร.วิชัยจึงหันมาวิจัยกวาวเครือแดงโดยมีการกำหนดกลุ่มตัวอย่าง 2 กลุ่ม เพื่อค้นหาคำตอบว่ากวาวเครือแดงสามารถใช้ฟื้นฟูสมรรถ ภาพทางเพศได้จริง.
“อธิชา ชื่นใจ article@dailynews.co.th”