10 ข้อเท็จจริงว่าด้วยการกำจัดโรคโปลิโอ

10 ข้อเท็จจริงว่าด้วยการกำจัดโรคโปลิโอ


ครั้งหนึ่งโรคโปลิโอเป็นโรคที่เคยกลัวกันไปทั้งโลก เพราะว่ามันส่งผลให้เห็นอย่างทันทีทันใดและทำให้ผู้คนเป็นอัมพาตโดยเฉพาะกับเด็กๆ ไปตลอดชีวิต

ครั้งหนึ่งโรคโปลิโอเป็นโรคที่เคยกลัวกันไปทั้งโลก เพราะว่ามันส่งผลอย่างทันทีทันใดและทำให้ผู้คนเป็นอัมพาตโดยเฉพาะกับเด็กๆ ไปตลอดชีวิต องค์การอนามัยโลกเป็นหนึ่งในภาคีโครงการริเริ่มกำจัดโปลิโอในระดับโลก ซึ่งโครงการนี้นับว่าเป็นความเป็นหุ้นส่วนภาคีระหว่างภาครัฐและเอกชนที่ใหญ่ที่สุด เพื่องานด้านสุขภาพ ซึ่งได้ช่วยลดการเป็นโรคโปลิโอไปได้ถึงร้อยละ 99


ปัจจุบันโรคโปลิโอ ยังคงมีอยู่ในชุมชนที่ยากจนที่สุด และในกลุ่มคนที่ตกขอบมากที่สุดในโลก ซึ่งเป็นที่ที่ โรคโปลิโอตามล่าคร่าชีวิตเด็กๆ ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงที่สุด เป้าหมายของโครงการฯ ก็คือการเข้าถึงเด็กทุกๆ คนให้ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโปลิโอ และสร้างความเชื่อมั่นว่าโลกของเราจะเป็นสถานที่ปลอดโรคโปลิโอเพื่อคนรุ่นต่อไป 


1. โรคโปลิโอยังคงสร้างความเป็นอัมพาตพิกลพิการให้กับเด็กๆ อย่างต่อเนื่อง ขณะที่โปลิโอเป็นเรื่องความทรงจำที่เกิดขึ้นนานมาแล้วในประเทศส่วนใหญ่ในโลก โรคนี้ยังคงดำรงอยู่ในหลายๆ พื้นที่ และส่วนใหญ่ยังส่งผลกระทบต่อเด็กๆ อายุต่ำกว่าห้าปี การติดเชื้อโรคนำไปสู่การเป็นอัมพาตอย่างไม่มีทางหวนกลับ(ปกติเกิดที่อวัยวะส่วนขา) ในกลุ่มผู้ที่เป็นอัมพาต ร้อยละ 5 ถึง 10 เสียชีวิตเมื่อกล้ามเนื้อหายใจไม่สามารถขยับเขยื้อนได้ 

2. ปัจจุบันการกำจัดโปลิโอให้หมดสิ้นไปในระดับโลก มีตัวเลขอยู่ที่ร้อยละ 99 ในปี ค.ศ.1988 เมื่อโครงการกำจัดโปลิโอระดับโลก(Global Polio Eradication Initiative) ได้รับการจัดตั้งขึ้น โปลิโอได้ทำให้คนเป็นอัมพาตถึง 350, 000 รายต่อปี นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาจำนวนผู้ป่วยโปลิโอได้ลดลงมากกว่า ร้อยละ 99

3. มีเพียงสี่ประเทศนั้นที่ยังไม่เคยหยุดยั้งการติดโรคโปลิโอได้ สี่ประเทศนั้นคือ อัฟกานิสถาน อินเดีย ไนจีเรีย และ ปากีสถาน   ประเทศเหล่านี้ต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายหลาย ๆ เรื่อง เช่น ความไม่มั่นคงปลอดภัย ระบบสุขภาพที่อ่อนแอ และการสุขาภิบาลที่แย่ โรคโปลิโอสามารถแพร่กระจาย จากประเทศเหล่านี้ไปติดเด็กๆ ในประเทศอื่นๆ ที่มีการฉัดวัคซีนไม่เพียงพอ 

4. โปลิโอไม่เหมือนโรคอื่นๆ เพราะว่า มันสามารถถูกกำจัดให้หมดสิ้นไปได้ มีเชื้อไวรัสโปลิโออยู่สามสายพันธุ์ ไม่ว่าสายพันธุ์ใดก็ตาม ไม่สามารถรอดชีวิตอยู่ได้เป็นระยะเวลานาน เมื่ออยู่ภายนอกร่างกายมนุษย์  หากเชื้อไวรัสนี้ไม่สามารถหาที่อยู่ใหม่ในร่างกายมนุษย์ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน มันก็จะตาย เชื้อไวรัสโปลิโอชนิดที่สองถูกกำจัดให้หมดสิ้นไปแล้วเมื่อปีค.ศ. 1999 

5. วัคซีนราคาถูกและมีประสิทธิผลนั้นมีอยู่และหาได้ทั่วไปเพื่อป้องกันโปลิโอ มีวัคซีนอยู่สองแบบ เพื่อป้องกันโปลิโอ แบบแรกคือวัคซีนที่ให้ทางปาก (Oral polio vaccine, OPV) และแบบที่สองคือ วัดซีนเชื้อตายแบบฉีด (Inactivated polio vaccine, IPV) สำหรับวัคซีนแบบแรกนั้นให้ทางปากได้ ดังนั้นใครก็ได้ แม้แต่อาสาสมัครสามารถทำหน้าที่ตรงนี้ได้ หนึ่งโด๊สของ OPV มีราคาถูกมาก นั่นคือเพียงแค่ 11 เซ็นต์ (เงินสกุลสหรัฐอเมริกา)  

6. ความพยายามในระดับโลก ที่จะกำจัดโปลิโอ เป็นความร่วมมือฉันท์หุ้นส่วนภาคีระหว่างภาครัฐและเอกชนเพื่อการสาธารณสุข โดยข้อเท็จจริงแล้วมันเป็นการขับเคลื่อนสันติภาพที่ใหญ่ที่สุดของมนุษย์ ความร่วมมือนี้ รวมเอาองค์กรนำหลักๆ อย่าง องค์การอนามัยโลก สโมสรโรตารี่ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ และองค์การยูนิเซฟ เข้ามาทำงาร่วมกัน นอกจากนั้นยังมี รัฐบาลของประเทศผู้ให้ทุนและประเทศที่ได้รับผลกระทบจากโปลิโอ มูลนิธิจากภาคเอกชน ธนาคารเพื่อการพัฒนา องค์กรเพื่อมนุษยธรรมและเอ็นจีโอ ภาคีที่เป็นบรรษัท และอาสาสมัครมากกว่า 20 ล้านชีวิต 

7. การฉีดวัคซีนในระดับใหญ่หลาย ๆ รอบช่วยกระตุ้นเสริมสร้างภูมิคุ้มกันอย่างรวดเร็ว โครงการกำจัดโปลิโอระดับโลกช่วยหลายๆ ประเทศในการดำเนินระบบเฝ้าระวังโรคโปลิโอ ยกตัวอย่างเช่น รอบการฉีดวัคซีนในระดับใหญ่ๆ เพียงรอบเดียวของวันสร้างภูมิคุ้มกันโรคระดับชาติที่ประเทศอินเดีย  มีบูธให้บริการฉีดวัคซีนมากถึง 640, 000 บูธ มีผู้ให้บริการฉีดวัคซีนมากถึง 2.3 ล้านคน มีวัคซีน 200 ล้านโด๊ส น้ำแข็ง 6.3 ล้านแพ็ค มีการเข้าเยี่ยมบ้าน 191 ล้านครั้ง และมีเด็กได้รับภูมิคุ้มกันมากถึง 172 ล้านคน 

8. เด็กทุกคนต้องได้รับการฉีดวัคซีนเพื่อกำจัดโรคโปลิโอ เรื่องนี้รวมเอาเด็กๆ ที่อาศัยอยู่ในสถานที่ห่างไกลและสถานที่ที่ไม่ควรอยู่บนโลกใบนี้ด้วย โครงการ 'Days of Tranquility' ได้รับการเจรจาต่อรองให้เกิดขึ้น เพื่อที่ว่าทีมฉีดวัคซีนจะได้สามารถเข้าถึงเด็ก ๆ ที่อยู่อาศัยในพื้นที่ที่มีความขัดแย้ง การขนส่งทุกรูปแบบถูกใช้เพื่อการณ์นี้ นับตั้งแต่ ลา รถมอเตอร์ไซค์ ไปจนถึงเฮลิคอปเตอร์ เพื่อให้เข้าถึงเด็กๆ ในพื้นที่ห่างไกล หรือในภูมิประเทศที่มีความยากลำบาก 

9. บุคลากร ยุทธศาสตร์ และทรัพยากรต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับโรคโปลิโอ ถูกใช้เพื่อสร้างความก้าวหน้าให้กับโครงการริเริ่มสุขภาพด้านอื่นๆ ด้วยยุทธวิธีต่างๆ เพื่อค้นหาและวางตำแหน่งของเด็กๆ ทุกๆ คน สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับโครงการริเริ่มด้านการสาธารณสุขอื่นๆ ในขณะที่ทีมฉีดวัคซีนอยู่ในหมู่บ้านพื้นที่ห่างไกล พวกเขาสามารถจัดหาการเข้าแทรกแซงทางสุขภาพในด้านอื่นๆ เข้าไปด้วย โดยมีต้นทุนที่เพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย ยกตัวอย่าง เช่น วิตามินเอได้ถูกจัดให้เด็กๆ พร้อมกับการรณรงค์เรื่องโปลิโอ เพราะว่าวิตามินเอช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้รางกายโดยทั่วไป มันช่วยให้เด็กๆ สู้กับการติดเชื้อโรคหลายๆ โรค เรื่องนี้ช่วยป้องกันการเสียชีวิตของเด็กเป็นจำนวนมากถึง 1.2 ล้านชีวิต 

10. เราสามารถกำจัดโปลิโอให้มลายหายสิ้นไปจากโลกนี้ได้ มากกว่า 20 ปีที่แล้ว เด็กชายในภาพนี้คือเด็กคนสุดท้ายที่ต้องเป็นอัมพาตจากโรคโปลิโอในพื้นที่ความรับผิดชอบขององค์การอนามัยโลกภาคพื้นอเมริกา องค์การอนามัยโลกประจำภูมิภาคแปซิฟิกตะวันตก ได้ออกมาประกาศว่าเป็นภูมิภาคปลอดเชื้อโปลิโอในปี 2000 และในปี 2002 องค์การอนามัยโลกประจำภูมิภาคยุโรปก็ออกมาประกาศเช่นเดียวกัน โลกของเราสามารถปลอดจากภัยคุกคามของโรคโปลิโอด้วยความทุ่มเทของทุกคน นับเนื่องตั้งแต่พ่อแม่ผู้ปกครอง ข้าราชการ ผู้นำทางการเมือง เรื่อยไปจนถึงชุมชนในระดับโลก


ขอบคุณ : who.int

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์