เด็กช่วง 3 ขวบปีแรกดูทีวีส่งผลลบ

เด็กช่วง 3 ขวบปีแรกดูทีวีส่งผลลบ


พญ.จารุวรรณ กิตติโศภิษฐ์ กุมารแพทย์ด้านพัฒนาการและพฤติกรรมเด็ก ได้แนะนำว่า พัฒนาการเด็กแรกเกิดถึงวัย 3 ขวบ มีความสำคัญมาก เนื่องจากสมองมีความเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว

เด็กควรได้รับการเรียนรู้และส่งเสริมอย่างรอบด้าน ผ่านระบบประสาทเคลื่อนไหวทั้ง 5
 
ด้าน ได้แก่ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส รวมทั้งพัฒนาการของหูชั้นในด้านการทรงตัว ทำให้เด็กเล็กๆ ชอบที่จะเล่นโยกเยก

แต่เด็กวัยนี้ยังมีการพัฒนาด้านสายตาไม่เต็มที่ดังนั้น การส่งเสริมพัฒนาการต่าง ๆ ผ่านระบบประสาทสัมผัสทั้ง 5
 
จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยสื่อสารให้เด็กได้รับความรักความอบอุ่นจากพ่อแม่ เช่น การสัมผัสและโอบกอด


เด็กช่วง 3 ขวบปีแรกดูทีวีส่งผลลบ


คุณหมอจารุวรรณ ยังบอกอีกว่า วัยขวบปีแรกเด็กยังมีพฤติกรรมเลียนแบบท่าทาง ซึ่งทำให้เด็กเริ่มสนใจและเริ่มที่จะจดจำหน้าพ่อแม่หรือคนใกล้ตัว ในวัย 2 ขวบ เด็กจะเริ่มมีการพัฒนาด้านการสื่อสารภาษา เพื่อบอกความต้อง การต่าง ๆ ดังนั้น ช่วง 3 ขวบปีแรกจึงไม่ควรให้เด็กเล็กดูโทรทัศน์ เนื่องจากจะเป็นผลลบต่อพัฒนาการและเป็นการสื่อสารทางเดียวที่ไม่มีปฏิสัมพันธ์ ตอบโต้ ทำให้เด็กไม่เกิดการพัฒนาทั้งทักษะ ภาษา หรือสังคม

การส่งเสริมพัฒนาการด้านนี้ให้กับลูกน้อยทำ ได้ด้วยการเล่นกับคนใกล้ชิด เป็นการเล่นเพื่อสนุกไม่ใช่การสอนสั่ง หรือห้าม และผู้ใหญ่ไม่ควรเอาตัวเป็นที่ตั้ง คาดหวังล่วงหน้าให้ เด็กมีพฤติกรรมเป็นไปตามความต้องการ แต่ควรเป็นการเล่นตามความสนใจของเด็ก เล่นเพื่อสนุกให้เกิดการพัฒนาอย่างรอบด้าน


เด็กช่วง 3 ขวบปีแรกดูทีวีส่งผลลบ


ด้าน ดร.พัฒนา ชัชพงษ์ ประธานกรรมการบริหารหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ กล่าวว่า เด็กในวัย 3 - 6 ขวบเป็นวัยที่เริ่มเรียนรู้โลกและภาษาเด่นชัดมาก ความคิดสร้างสรรค์ของเด็กจะเป็นอย่างไรในอนาคต อยู่ที่การส่งเสริมเลี้ยงดูในช่วงเวลานี้เป็นสำคัญ พ่อแม่ควรส่งเสริมพัฒนาการหลายด้านไปพร้อม ๆ กัน เช่น อาหาร สังคม การเล่นดนตรี หรือการอ่าน

เด็กไม่จำเป็นต้องมีของเล่นราคาแพง แต่พ่อแม่สามารถใช้สิ่งของที่อยู่ในบ้านเป็นของเล่นได้ ในส่วนของดนตรีไม่จำเป็นต้องเปิดเพลงให้ฟังเท่านั้น การเคาะจังหวะ เช่น ตบมือ เคาะไม้หรือดนตรีล้วน ๆ ที่ไม่มีเนื้อร้อง จะทำให้เด็กได้เรียนรู้จังหวะ

นอกจากนี้ การอ่านนิทานให้ลูกฟังจะต้องมีเสียงสูงเสียงต่ำมีจังหวะ เด็กจะจดจำนิทานเรื่องนั้นมากกว่าการเล่านิทานที่เสียงราบเรียบ นิทานทำให้เด็กมีจินตนาการและถ้ามีเนื้อหาดี ๆ จะเป็นการปลูกฝังให้เด็กอยากทำความดี


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์