เตือน ภาวะเลือดจาง เมื่อขาด วิตามินอี

ภาพประกอบอินเตอร์เน็ตภาพประกอบอินเตอร์เน็ต


ที่ผ่านมาเรานึกถึง วิตามินอี กันน้อยมากในด้านที่จะนำมารักษาโรคเลือดจางจากเม็ดเลือดแตกง่ายในทารกคลอดก่อนกำหนด ลักษณะเฉพาะของโรคเลือดจางชนิดนี้คือ เม็ดเลือดแดงมีอายุสั้น และความโน้มเอียงที่จะแตกง่าย เมื่อสารภายในเม็ดเลือดแดงถูกปลดปล่อยออกมาขณะที่มันแตก ฮีโมโกบินที่กระจายออกมาจะไม่สามารถใช้ลำเลียงออกซิเจนได้ จำนวนเม็ดเลือดที่ยังปกติในเลือดจะลดลง ทำให้เกิดอาการต่าง ๆ ของภาวะหลอดเลือดจาง

ผลที่ตามมาก็คือ ทารกคลอดก่อนกำหนด จะมีระดับบิลิรูบินในเลือดเพิ่มสูง ทำให้ตัวเหลือง ตาเหลือง ปกติเรารักษาภาวะนี้ด้วยการบำบัดด้วยแสง (Phototherapy) โดยใช้แสงอุลตราไวโอเล็ตส่องให้แก่ทารกจนกว่าระดับบิลิรูบินจะลดลงสู่ปกติ

อย่างไรก็ตามในปี ค.ศ.1979 เอส.เจ.กรอส ได้ทดลองศึกษาในทารก 40 ราย ซึ่งบางรายน้ำหนักต่ำกว่า 1,500 กรัม เขาให้วิตามินอีแก่ทารกเหล่านี้ใน 3 วันแรกหลังคลอด ผลก็คือเขาสามารถลดระยะเวลาของการบำบัดแสงจาก 107 ชั่วโมง ลงเหลือเพียง 48 ชั่วโมงเท่านั้น

เนื่องจากวิตามินอี ในเลือดของแม่ไม่สามารถจะผ่านไปยังทารกโดยทางสายสะดือได้สะดวก ดังนั้นระดับของวิตามินอีในเนื้อเยื่อและในเลือดของทารกที่คลอดก่อนกำหนดรวมทั้งคลอดปกติจึงต่ำมาก

ในทารกที่คลอดก่อนกำหนด น้ำนมแม่มีปริมาณของวิตามินอีพอเพียงแก่ความต้องการของทารก แต่น้ำนมวัวที่ใช้เลี้ยงทารกมีวิตามินอีต่ำมาก

ผลการศึกษาในระยะหนึ่งพบว่า แม้กระทั่งในผู้ใหญ่ที่เป็นโรคเลือดจางจากเม็ดเลือดแตกง่ายบางชนิด สามารถตอบสนองต่อการรักษาด้วยวิตามินอี ซึ่งนับว่าเป็นก้าวสำคัญที่จะนำไปสู่การบำบัดรักษาโรคที่ปัจจุบันนี้ที่ยังรักษาไม่หายขาด


ขอบคุณเนื้อหาจาก เฮลท์ตี้ทูเดย์

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์