ต้นกล้าแห่งสังคมสันติภาพ

ต้นกล้าแห่งสังคมสันติภาพ


สายตาอันบริสุทธิ์แจ่มใส..กำลังจ้องมองความเป็นไปที่ปรากฏอยู่เฉพาะหน้า ในขณะเดียวกันดวงจิตดวงน้อยก็ทำการบันทึกภาพ และเสียงต่างๆ ไว้อย่างละเอียดต่อไป ในวันข้างหน้าเมื่อเขาโตขึ้นคงได้ทำตามอย่างภาพ ที่ได้บันทึกไว้ในดวงจิต

..กงล้อแห่งเวลาในปี ๒๕๕๐ กำลังเคลื่อนตัวไปข้างหน้า ไม่สนใจต่อความรู้สึกที่ยังสั่นระทึกของผู้คนที่อาศัยอยู่ในโลกใบนี้เลยแม้แต่น้อย เวลายังคงทำงานอย่างซื่อตรงเสมอ จิตใจที่หวาดผวาในมหันตภัยร้าย ที่ลือกันว่า อาจจะเกิดแก่โลกในปีนี้นั้น

ผู้ที่เป็นทุกข์เป็นร้อน อกสั่นขวัญแขวนดูเหมือนจะเป็นผู้ที่อยู่ในวัยผู้ใหญ่ ส่วนเด็ก ๆ เยาวชนหาได้มีความรู้สึกเช่นนั้นไม่ จิตใจของพวกเขายังบริสุทธิ์ มีความกังวลน้อยและสั้นเพียงแค่ได้ทำกิจกรรมที่ถูกใจกับเพื่อนๆ วัยสดใสเหมือนกัน โลกจะแตกหรือไม่ ไม่ใช่เรื่องสำคัญอีกแล้วในช่วงชีวิตขณะนั้น


ต้นกล้าแห่งสังคมสันติภาพ


ต้นกล้าของมวลมนุษย์..มีความบริสุทธิ์ดุจผ้าขาว


ผู้ใหญ่จะใส่สีอะไรลงไป ผ้าขาวผืนนั้นก็จะดูดซับเข้าไปในเนื้อผ้านั้น จากนั้นก็จะเปลี่ยนสีทันที หากเปรียบสีเป็นดั่งคุณธรรมที่ถูกปลูกฝังเข้าไปในใจของเด็กและเยาวชน ใจของพวกเขาซึ่งมีความบริสุทธิ์พร้อมที่จะเปิดต้นรับอยู่แล้ว เมื่อมีสิ่งดีงามเข้าไปครองจิตใจเขา คนดีก็จะเกิดขึ้นเป็นสมบัติอันล้ำค่าของโลกไปในทันทีเช่นกัน

เชื่อไหมว่า หากคุณธรรมได้ถูกปลูกฝังลงไปในใจเด็กๆ ซึ่งเป็นเยาวชนของโลก เพียงหนึ่งชั่วอายุคนเท่านั้น สังคมมนุษย์ก็จะกลายเป็นสังคมแห่งสันติภาพ.. ขอนำบรรยากาศของสังคมแห่งสันติภาพที่เคยมีมาแล้วในอดีตบนโลกใบนี้ ซึ่งมีบันทึกอยู่ในพระไตรปิฏกมาให้ดูโดยสังเขปดังนี้

ผู้ปกครองหรือพระราชามหากษัตริย์ในยุคนั้นมีบุญมาก มีสมบัติจักรพรรดิตักไม่พร่อง ครองตนอยู่ในศีลธรรมเป็นทานบดี เป็นธรรมราชาปกครองไพร่ฟ้าโดยธรรมาธิปไตย มีชัยชนะโดยธรรมสม่ำเสมอ ไม่ต้องใช้อำนาจ อาญา หรือศัตราวุธใดๆ ข้าวปลาอาหารหาได้โดยง่าย ไม่เคยขาดแคลน

แม้มีจำนวนประชากรมากมายเพียงไดก็ตาม บ้านเมืองจะดูครึกครื้นรื่นรมย์ไปด้วยเสียงขับขานของดนตรีอันไพเราะ ผู้คนมีรอยยิ้มเป็นเครื่องประดับใบหน้า เจรจากันด้วยไมตรีจิตมิตรภาพ เสียงที่มีอยู่ตลอดเวลาไม่เคยขาดไปจากการได้ยินคือ

"ท่านทั้งหลาย จงบริโภคเถิด จงดื่มเถิด จงเคี้ยวกินตามปรารถนาเถิดขออย่าได้เกรงใจ" พระราชาผู้ปกครองประเทศจัดตั้งโรงทานไว้ทั้ง ๔ ทิศของพระนคร เปิดให้ประชาราษฏร์มารับเอาข้าวของต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นข้าวปลาอาหาร น้ำ ผ้า ยานพาหนะ ที่นอนที่นั่ง คนรับใช้ เงินทอง ตามแต่ใครจะต้องการอะไร ตลอด ๒๔ ชั่วโมง ปวงประชาราษฏร์มีศีล ๕ เป็นปรกติ

ละอายเกรงกลัวต่อบาป บ้านเมืองจึงสงบไม่มีการเบียดเบียนกัน อยู่กันอย่างเครือญาติ ประตูเรือนเปิดตลอดไม่เคยปิด ครอบครัวอบอุ่น ปรองดองอยู่ด้วยกันอย่างผาสุก ซึ่งบรรยากาศที่กล่าวไว้ข้างต้นสามารถเกิดขึ้นได้ไหมในยุคของเรา..


ต้นกล้าแห่งสังคมสันติภาพ


หากสายตาอันบริสุทธิ์แจ่มใสของเด็กน้อยและเยาวชนในวันนี้ได้เห็นแต่ความดีงาม


มีไมตรีจิตมิตรภาพ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ไม่แก่งแย่ง ชิงดีชิงเด่นกัน ได้เห็นท่าทางอันสงบไม่ก้าวร้าวรุนแรงของผู้ใหญ่ เห็นมือที่ประนมอย่างสง่า สดับรับฟังเสียงสวดมนต์สรรเสริญพระรัตนตรัย ได้เห็นท่านั่งขัดสมาธิคู้บัลลังก์อันมั่นคงของผู้เป็นบิดา มารดา ปู่ ย่า ตา ทวด หรือญาติผู้ใหญ่ทั้งหลาย

แผ่นฟิล์มคือ ดวงจิตอันบริสุทธิ์ของพวกเขาจะถูกสลักภาพแห่งสันติภาพลงไปทันที เมื่อใดที่เขาเติบโตขึ้น เขาจะได้ทำอย่างนั้นบ้าง แล้ววัฒนธรรรมอันดีงามของโลกก็จะถูกสืบทอด บรรยากาศของโลกก็จะถูกปรับเปลี่ยนไปดั่งที่เราแสวงหา

เด็กน้อยที่ก้าวออกมาจากบ้านกัลยาณมิตรที่มีอยู่ทุกหนแห่งทั่งโลกนี่เหละ คือต้นกล้าแห่งสังคมสันติภาพ เพราะดวงจิตของพวกเขาได้ถูกผู้ใหญ่ในบ้านกัลยาณมิตรแต่ละหลังเขียนบทชีวิตแห่งอริยชนลงไปอย่างแนบเนียนและประณีตที่สุด..



ขอขอบคุณ : ข้อมูลที่มีประโยชน์


โดย พรพมสุโภ
จาก...ธรรมะ ดอทเน็ท

สนับสนุนเรื่องราววาไรตี้โดยสนับสนุนเรื่องราววาไรตี้โดย


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์