ปรัชญาการทำงานและการดำเนินชีวิต 4

ปรัชญาการทำงานและการดำเนินชีวิต 4



61. สะสมลาภ ยศ ความดี เพื่อประโยชน์ในภายภาคหน้า
ถ้าจะให้ชื่อเสียงดี มีเกรียติยศ มีภาพพจน์ดี เป็นที่รับรู้ของคนทั่วไปในอนาคต ต้องกระทำความดีอย่างสม่ำเสมอ

62. เดินเร็ว ฝีเท้าย่อมไม่สวยและอาจหกล้มได้
จะก้าวให้มั่นคงและกิจการไม่ล้มเหลวต้องรอบคอบเสมอ

63. เกรียติที่สูง ไม่จำเป็นต้องให้ตัวเองอวดอ้าง
ถ้าเราทำตัวเหมาะสมกับคนที่มีเกรียติแล้วไม่อวดอ้าง คนอื่นก็จะมอบเกรียติให้เราเอง

64. การช่วยเหลือผู้อื่น และมองคนในแง่ดี ทำให้เกิดสุขทางใจ
การทำบุญ ทำทาน ช่วยเหลือผู้อื่น มองหรือคิดถึงผู้อื่นในแง่ดี ทำให้จิตใจของตนดีและมีความสุขได้

65. ผู้ที่เป็นผู้นำได้ ต้องผ่านความลำบากมาก่อน
คนที่เคยลำบากมาแล้วย่อมเป็นหัวหน้างานที่สามารถให้กำลังใจกับลูกน้องได้ดี
66. ทำงานมากก็ผิดพลาดมาก ทำน้อยก็ผิดพลาดน้อย
คนเราทำงานก็ต้องมีการผิดพลาดบ้าง คนที่ไม่มีความผิด ก็คือคนที่ไม่ได้ทำอะไรเลย

67. หากดีแต่พูด ไม่ลงมือทำ ความคิดก็ไม่อาจเป็นจริงได้
เมื่อไม่ลองปฏิบัติก็ไม่รู้ว่าที่คิดนั้นทำง่ายหรือยาก งานบางอย่างอาจพูดง่ายแต่ทำยาก

68. การทำงาน ต้องมีเป้าหมาย
การทำงานโดยไม่มีเป้าหมาย เหมือนคนที่ไม่มีจุดมุ่งหมายของชีวิต

69. เราพูดด้วยความโมโหเพียงครั้งเดียว แต่อยู่ในใจของคนอื่นตลอดชีวิต
การพูดโดยใช้อารมณ์ ไม่ใช่สติไตร่ตรองเสียก่อน แม้เพียงครั้งเดียวก็อาจทำลายทั้งตนเอง และมิตรภาพได้ตลอดไป

70. ความใกล้ชิด ย่อมนำมาซึ่งความเข้าใจ และผลของงานที่ดี
การทำงานใกล้ชิดกับลูกน้อง หัวหน้านอกจากมีโอกาสศึกษาผลของงานแล้ว ยังได้ศึกษานิสัยการทำงานของลูกน้องด้วย

71. ทำการค้าต้องเดินสายกลาง ยึดหลักมั่นคงไว้ก่อน
ทำการค้าอย่าลงทุนเกินตัว ต้องเก็บส่วนหนึ่งไว้ เป็นความมั่นคงของตนเอง และครอบครัวด้วย

72. ผิดครั้งแรกเป็นครู แต่ผิดซ้ำสองนั้นถือว่าโง่
คนเราทำงานก็ต้องผิดพลาด แต่สิ่งสำคัญต้องจดจำความผิดนั้น นำมวิเคราะห์หาสาเหตุ ถ้าผิดซ้ำซากก็เหมือนคนที่หาบทเรียนจากประสบการณ์ไม่ได้

73. คนจะโง่ หรือ ฉลาด ดูได้จากคำพูด
คำพูดเปรียบเหมือนประตูของจิตใจ คนโง่จะพูดเรื่องที่ขาดหลักคิดและเหตุผล ในขณะที่คนฉลาดจะมีเหตุผลและหลักคิดที่ดี

74. ไม่มีใครเคยตายเพราะงานหนัก
ในการทำงาน ให้ยึดหลักว่าทำเข้าไปเถิดสิ่งที่ว่ายาก เพราะยิ่งทำสิ่งที่ยากมาก หรือหนักมาก ก็ยิ่งรู้มาก

75. ชีวิตการศึกษา ต่างจากชีวิตการทำงาน
ในชีวิตการศึกษา เราจะรับความรู้จากครูบาอาจารย์ คนที่จบการศึกษาใหม่ๆ มักจะยึดติดกับทฤษฏีที่ร่ำเรียนมา เปรียบเสมือนมีศรีษะและความคิดเป็นรูปสี่เหลี่ยม มีด้านและมุมที่ตายตัว จึงเข้ากับผู้อื่นได้ยาก
          แต่ในชีวิตการทำงาน เราต้องหาความรู้จากสิ่งรอบข้างและประสบการณ์ แล้วถ่ายทอดต่อให้ผู้อื่น จึงต้องปรับตัวเข้ากับผู้อื่นให้ได้ เปรียบเหมือนพัฒนาศรีษะและความคิดของตน จากรูปสี่เหลี่ยมให้เป็นทรงกลม ทรงรี และ ทรงแหลมในที่สุด เพราะรูปทรงแหลม สามารถสอดแทรกไปได้ง่าย หมายความว่าคนผู้นั้นมีความสามารถปรับตัวเข้ากับผู้อื่นได้

76. ตระกูลที่สะสมแต่กรรมดี ย่อมประสบแต่สิ่งสิริมงคล
ชีวิตของคนเราต้องทำแต่สิ่งที่ดีงาม จึงจะเจริญ

77. ความรู้มีอยู่ทุกหนแห่ง อยู่ที่เราจะรับรู้หรือไม่
เราหาความรู้ได้ทุกหนแห่งทุกเวลา อยู่ที่เราจะเก็บเกี่ยวอย่างไรและเมื่อไร บางคนมีความสามารถในการเก็บเกี่ยวซึมซับความรู้ จากสิ่งแวดล้อมและประสบการณ์ อาจมีความรู้มากกว่าคนที่จบจากมหาวิทยาลัยเสียอีก และบางครั้งความรู้ที่ได้จากสถานการณ์จริง และประสบการณ์นั้น สามารถทำมาใช้ในชีวิตได้ดีกว่า

78. หัวหน้าที่ดีต้องรู้จักชื่นชมลูกน้อง
      หัวหน้างานที่ค้นหาจุดเด่นของลูกน้องแล้วชมเชย จะเป็นกำลังใจให้ลูกน้องหมั่นทำความดีต่อไป
    แต่หัวหน้างานที่คอยแต่จะค้นหาจุดด้อยมาตำหนิ จะทำให้ลูกน้องหมดกำลังใจ กล่าวได้ว่าเป็นคนที่มองไม่เห็นคุณค่าของลูกน้อง

79. ร่างกายต้องการอาหารกายฉันใด จิตใจต้องการอาหารใจฉันนั้น
ขณะที่ร่างกายของคนเราต้องการอาหารเพื่อเป็นพลังในการมีชีวิต
จิตใจของคนเราก็ต้องการความรู้และหลักคิดที่ดี เพื่อเป็นพลังในการเป็นคนดี มีจิตใจดีเช่นกัน

80. ปลูกต้นไม้ใหญ่ใช้เวลาร้อยปี สร้างคนใช้เวลาสิบปี
การจะสร้างสิ่งหนึ่งสิ่งใดให้แข็งแกร่งมีคุณค่า ต้องใช้ความอดทน ใช้เวลา โดยเฉพาะการสร้างคนหนึ่งคนให้เก่ง ยิ่งต้องใช้ความอดทนและใช้เวลามาก ทั้งตัวผู้สร้างและผู้ถูกสร้าง เพราะนั่นหมายถึง การสร้างให้คนคนนั้นเพียบพร้อมทั้งความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์

81. ทำคุณให้ผู้อื่นต้องลืม ผู้อื่นทำคุณให้ต้องจำ
หากเราเคยทำประโยชน์หรือช่วยเหลือใครไว้ อย่าจดจำหรือคาดหวังการตอบแทน เพราะอาจไม่ได้ดังที่หวัง หรือ เผลอไปทวงบุญคุณให้เขาเสียความรู้สึก แต่ถ้ามีใครช่วยเหลือเราต้องจดจำให้แม่น เพื่อหาโอกาสตอบแทนบุญคุณ

82. คนที่ชอบโยนความผิดให้ผู้อื่น เป็นคนที่ยากจะพัฒนาให้ดีได้
คนบางคนไม่ยอมรับความผิดของตน ชอบหาแพะรับบาป หมกมุ่นกับการหาวิธีโยนความผิดให้ผู้อื่น แทนที่จะใช้เวลาในการพัฒนางานของตน คนประเภทนี้ ยากที่จะพัฒนาได้

83. อยากเจริญก้าวหน้า ต้องทำตัวเหมือนคนกำลังขึ้นเขา
คนเดินขึ้นภูเขา จะต้องโน้มตัวไปข้างหน้าเสมอ เปรียบเสมือนคนอ่อนน้อมถ่อมตน ซึ่งจะมีแต่คนรัก แต่คนเดินลงจากภูเขาจะเอนตัวไปข้างหลัง เปรียบเสมือนคนเย่อหยิ่งจองหอง ซึ่งไม่มีใครชอบ ดังนั้น ถ้าต้องการให้มีคนรัก และช่วยสนับสนุนให้เจริญก้าวหน้า ควรประพฤติตนเสมือนคนกำลังเดินขึ้นเขา

84. ผลักน้ำออกไป น้ำไหลเข้ามา วักน้ำเข้ามา น้ำไหลออกไป
คนที่เป็นผู้ให้ มักได้รับสิ่งตอบแทนเสมอ อย่างน้อยก็ต้องได้ความรักและความชื่นชมจากผู้อื่น เปรียบเสมือนผลักน้ำออกไปจากตัว น้ำก็ยิ่งจะไหลเข้ามา
แต่คนที่มีแต่ความโลภอยากได้จากผู้อื่น กลับต้องเป็นผู้สูญเสีย ไม่ได้รับแม้แต่ความรักและความศรัทธา เปรียบเสมือนคนที่พยายามวักน้ำเข้าหาตัว น้ำก็จะยิ่งไหลออกไป

85. มีคู่แข่งได้ แต่ต้องไม่มีคู่แค้น
การทำธุรกิจก็เหมือนการเล่นกีฬา ต้องมีคู่แข่ง มีผู้แพ้ผู้ชนะ แต่ต้องไม่มีคู่แค้น เพราะการมีคู่แค้นทำให้ธุรกิจนั้นมัวหมอง ไม่สดใส ไม่มีอนาคต

86. เกิดเป็นคน เงยหน้าต้องไม่อายฟ้า ก้มหน้าต้องไม่อายดิน
คนเราเกิดมาอย่ามุ่งแต่จะหาประโยชน์ใส่ตนจนกลายเป็นคนเอาเปรียบสังคม หรือ เบียดเบียนธรรมชาติสิ่งแวดล้อม

87. คบคนดี ไม่สร้างศัตรู
การคบคนดีก็เหมือนการคบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล การยอมกันสักนิดเพื่อไม่ต้องเป็นศัตรูกันจะดี เพราะการมีศัตรูเป็นหนทางสู่ความหายนะ

ปรัชญาการทำงานและการดำเนินชีวิต 4


ขอบคุณเว็บทำดี


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์